วอลล์สตรีท เจอร์นัล - ราคาข้าวในตลาดล่วงหน้าของสหรัฐฯ ดีดขึ้น จากการคาดการณ์ว่าอุทกภัยร้ายแรงจะทำให้ผลผลิตของไทยเสียหายยับเยิน ขณะที่แดนอิเหนา ผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ ห่วงว่าสถานการณ์นี้อาจนำไปสู่ ‘วิกฤตอาหาร’
วันจันทร์(24)ที่ผ่านมา ราคาสัญญาซื้อขายข้าวเปลือกล่วงหน้าไต่สู่ระดับสูงสุดที่ตลาดชิคาโก บอร์ด ออฟ เทรด อนุญาต โดยสัญญาซื้อขายประจำเดือนพฤศจิกายนขยับขึ้น 3% ปิดที่ 16.905 เซนต์ต่อปอนด์ ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดของเดือนนี้ และพุ่งขึ้น 9% นับจากตกทำสถิติต่ำสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว
เจเรมี สวิงเกอร์ ประธานบริหารเดอะ ไรซ์ เทรดเดอร์ บริษัทที่ปรึกษาในแคลิฟอร์เนีย เผยว่าปัจจัยสำคัญคือ ความกังวลว่าเหตุการณ์น้ำท่วมในเมืองไทยสร้างความเสียหายรุนแรงกว่าที่เคยคาดไว้แต่แรก โดยขณะนี้เกษตรไทยสูญข้าวสารราว 3 ล้านเมตริกตัน หรือราว 20% ของผลผลิตทั้งหมด
น้ำที่ท่วมกระจายไปทั่วและการคาดการณ์ความเสียหายที่ขยายออกไป ทำให้เกิดความกังวลในประเทศต่างๆ ที่พึ่งพิงข้าวของไทย เช่น อินโดนีเซีย ผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่
อากัส มาร์โทวาร์โดโจ รัฐมนตรีคลังแดนอิเหนา แสดงความกังวลว่าเหตุการณ์น้ำท่วมเรื้อรังอาจนำไปสู่ ‘วิกฤตอาหาร’ จึงได้จับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งประเมินความเสี่ยงที่เป็นไปได้ทั้งหมด พร้อมระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลได้จัดสรรเงินจากกองทุนฉุกเฉินจำนวน 338 ล้านดอลลาร์เพื่อให้มั่นใจว่ามีอาหารพอเพียงสำหรับความต้องการ
ขณะเดียวกัน ดอยช์ แบงก์ระบุว่า ราคาข้าวที่ขึ้นตามกระแสน้ำท่วม ถือเป็น 'ข่าวที่ไม่น่ายินดี’ สำหรับผู้นำในเอเชียที่กำลังต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อ ทั้งยังบอกว่า มีความเป็นไปได้ที่ไทยจะระงับการส่งออกดังเช่นที่หลายประเทศเคยใช้นโยบายนี้มาแล้วในอดีต เช่นตอนที่เกิดภาวะแห้งแล้งในปี 2010 และรัสเซียประกาศห้ามส่งออกข้าวสาลี ส่งผลให้ราคาพุ่งทะยาน
อนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนนี้ กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ประเมินไว้ว่าไทยจะส่งออกข้าว 8 ล้านตัน หรือเกือบ 1 ใน 4 ของยอดส่งออกทั่วโลก
