สื่อต่างประเทศชื่อดังร่ายยาวถึงเสียงกร่นด่าต่อความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลไทยในการรับมือกับอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบครึ่งทศวรรษที่ก่อความเสื่อมถอยรอบใหม่แก่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ท่ามกลางมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจอันมหาศาล
ในบทความเรื่อง "Floods Soak New Thai Government" ของวอลล์สตรีทเจอนัลด์ อ้างคำพูดของนักวิเคราะห์หลายคนบอกว่าปัญหาใหญ่ที่สุดของนางสาวยิ่งลักษณ์คือแนวทางการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอุทกภัยแบบตามมีตามเกิด ผลจากการที่รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้สั่งอพยพในพื้นที่บางส่วนของเมืองหลวงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ข้อมูลข่าวสารที่เอาแน่เอานอนไม่ได้นี้ก่อความตื่นตระหนกแก่ชาวบ้านและบริษัทต่างชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องปิดโรงงานไปแล้วหลายแห่งทั่วไทย ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทยประมาณการณ์ว่าอุทกภัย ซึ่งคราชีวิตผู้คนไปแล้ว 315 ศพและทำประชาชนตกงานราว 2.5 แสนคน จะส่งผลกระทบต่อจีดีพีของประเทศร้อยละ 1.7 ขณะที่ภัยธรรมชาติครั้งนี้ยังก่อความยุ่งเหยิงแก่ห่วงโซ่อุปทานทางอุตสาหกรรมไปทั่วเอเชียและอาจไกลกว่านั้นด้วย
รัฐบาลพยายามต่อสู้อุทกภัยด้วยการจัดตั้ง "วอร์รูม" ณ สนามบินดอนเมือง สถานที่ซึ่งความแตกแยกทางการเมืองระหว่างรัฐบาลประชานิยมกับข้าราชการหัวอนุรักษ์นิยมและผู้นำทหารถูกพับเอาไว้ แต่นักวิเคราะห์บอกว่าในความจริงก็คือนางสาวยิ่งลักษณ์ กลับประสบปัญหาในการควบคุมสถานการณ์เพราะเป็นที่เข้าใจอย่างกว้างขวางว่ารัฐบาลอายุ 2 เดือนของเธอถูกควบคุมโดยอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร พี่ชายซึ่งพำนักอยู่ในดูไบ หลังจากถูกรัฐประหารเมื่อ 5 ปีก่อน
วอลล์สตรีท เจอร์นัลด์ อ้างคำสัมภาษณ์ของนายภาวิน ชัชวาลย์พงศ์พันธ์ นักวิจัยแห่งสถาบันการศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สิงคโปร์ ระบุว่า"นางสาวยิ่งลักษณ์ เธอทำได้ดีสำหรับการปรากฎตัวไปทุกๆที่ แต่รัฐบาลของเธอก็รู้ถึงภัยคุกคามของอุทกภัยนี้ตั้งแต่เมื่อ 2 เดือนก่อนและดำเนินการปกป้องเพียงเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ดังนั้นนี่จึงเป็นภาวะวิกฤตผู้นำอย่างแท้จริง"
ในบทความเรื่อง "Floods Soak New Thai Government" ของวอลล์สตรีทเจอนัลด์ อ้างคำพูดของนักวิเคราะห์หลายคนบอกว่าปัญหาใหญ่ที่สุดของนางสาวยิ่งลักษณ์คือแนวทางการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอุทกภัยแบบตามมีตามเกิด ผลจากการที่รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้สั่งอพยพในพื้นที่บางส่วนของเมืองหลวงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ข้อมูลข่าวสารที่เอาแน่เอานอนไม่ได้นี้ก่อความตื่นตระหนกแก่ชาวบ้านและบริษัทต่างชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องปิดโรงงานไปแล้วหลายแห่งทั่วไทย ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทยประมาณการณ์ว่าอุทกภัย ซึ่งคราชีวิตผู้คนไปแล้ว 315 ศพและทำประชาชนตกงานราว 2.5 แสนคน จะส่งผลกระทบต่อจีดีพีของประเทศร้อยละ 1.7 ขณะที่ภัยธรรมชาติครั้งนี้ยังก่อความยุ่งเหยิงแก่ห่วงโซ่อุปทานทางอุตสาหกรรมไปทั่วเอเชียและอาจไกลกว่านั้นด้วย
รัฐบาลพยายามต่อสู้อุทกภัยด้วยการจัดตั้ง "วอร์รูม" ณ สนามบินดอนเมือง สถานที่ซึ่งความแตกแยกทางการเมืองระหว่างรัฐบาลประชานิยมกับข้าราชการหัวอนุรักษ์นิยมและผู้นำทหารถูกพับเอาไว้ แต่นักวิเคราะห์บอกว่าในความจริงก็คือนางสาวยิ่งลักษณ์ กลับประสบปัญหาในการควบคุมสถานการณ์เพราะเป็นที่เข้าใจอย่างกว้างขวางว่ารัฐบาลอายุ 2 เดือนของเธอถูกควบคุมโดยอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร พี่ชายซึ่งพำนักอยู่ในดูไบ หลังจากถูกรัฐประหารเมื่อ 5 ปีก่อน
วอลล์สตรีท เจอร์นัลด์ อ้างคำสัมภาษณ์ของนายภาวิน ชัชวาลย์พงศ์พันธ์ นักวิจัยแห่งสถาบันการศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สิงคโปร์ ระบุว่า"นางสาวยิ่งลักษณ์ เธอทำได้ดีสำหรับการปรากฎตัวไปทุกๆที่ แต่รัฐบาลของเธอก็รู้ถึงภัยคุกคามของอุทกภัยนี้ตั้งแต่เมื่อ 2 เดือนก่อนและดำเนินการปกป้องเพียงเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ดังนั้นนี่จึงเป็นภาวะวิกฤตผู้นำอย่างแท้จริง"