เอเอฟพี - อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่าออสเตรเลีย เผย วาฬหัวทุยเกยหาดแห่งหนึ่งบนเกาะแทสเมเนีย สิ้นใจตายหมู่แล้ว 22 ตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งช่วยชีวิตวาฬอีก 2 ตัว ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ให้กลับคืนสู่ท้องทะเลได้ทันเวลา
ผู้เชี่ยวชาญสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลไปยังจุดเกิดเหตุในอ่าวแมคควารี ที่สเตรฮัน ชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐแทสเมเนีย แต่ความพยายามของหน่วยกู้ภัยต้องชะงักด้วยสภาพอากาศเลวร้าย
วาฬหัวทุย 22 ตัว ซึ่งแต่ละตัวมีน้ำหนักราว 2 ตัน ขนาดยาวถึง 12 เมตร ขึ้นมาเกยฝั่งโอเชียน บีช ใกล้กับสเตรฮัน เมื่อวันเสาร์ (12) ที่ผ่านมา ตายหมดแล้ว
ขณะที่วาฬอีก 4 ตัวว่ายหลงเข้าไปในอ่าวดังกล่าว และติดอยู่บริเวณสันดอนทราย แต่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยให้วาฬ 2 ตัวกลับสู่ท้องทะเลได้สำเร็จแล้ว ทว่า ยังเหลืออีก 2 ตัวเกยตื้นอยู่ นอกจากนี้ ยังมีวาฬมิงค์ 2 ตัวเจอปัญหาเดียวกัน ในบริเวณใกล้เคียง แต่โชคร้ายต้องตายไปก่อน
คริส อาร์เธอร์ ผู้ควบคุมดูแลเหตุการณ์ในอุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่าแทสเมเนีย เผยว่า วาฬหัวทุยมีขนาดใหญ่โตมากจนอาสาสมัครไม่สามารถดึงมันกลับสู่ทะเลน้ำลึกได้อย่างง่ายดาย จึงจำเป็นต้องใช้ปฏิบัติการช่วยชีวิตที่ซับซ้อนขึ้นแทน
อย่างไรก็ตาม อาร์เธอร์ กล่าวว่า สภาพอากาศกำลังเลวร้ายลง โดยมีทั้งคลื่นลมทะเลรุนแรง ทำให้ความพยายามในการพาวาฬอีก 2 ตัวทีเหลือกลับทะเลนั้นต้องถูกเลื่อนออกไปจนถึงวันอังคาร (15) หรือจนกว่าสภาพอากาศจะดีขึ้น
เขายังเสริมว่า วาฬ 2 ตัวนั้นมีอาการเหนื่อยอ่อน แต่พวกมันก็ยังสะบัดครีบ และเป่าน้ำได้อยู่ ซึ่งเชื่อว่าพวกมันยังสามารถรอดชีวิตไปได้อีกอย่างน้อย 2-3 วัน
อีกปัญหาในการช่วยเหลือวาฬเหล่านี้ คือ ในสเตรฮันมีช่องแคบที่มีความแปรปรวน ถูกเรียกว่า เฮลล์เกตส์ หรือประตูนรก ซึ่งวาฬจะต้องผ่านไปเพื่อกลับสู่ทะเลน้ำลึก แต่อาร์เธอร์ก็มั่นใจว่าเจ้าสัตว์ทะเลยักษ์ทั้งสองนี้จะกลับคืนธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย
สำหรับซากวาฬที่ตายแล้ว 22 ตัวยังคงนอนเกลื่อนชายหาด โดยต้องปล่อยให้เน่าเปื่อยเช่นนี้้ เนื่องจากพวกมันมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะเคลื่อนย้ายไปฝังที่อื่น แต่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้เก็บตัวอย่างชิ้นส่วนวาฬไปตรวจสอบแล้ว