ชาวบ้านถึงกับผงะหลังพบวาฬหัวทุยขนาดยักษ์ 40 ฟุตเกยตื้นตายอยู่บนชายหาดแห่งหนึ่งในอีสต์แองเกลียน ทางตะวันออกของอังกฤษ ในสภาพที่มีแผลขนาดใหญ่บริเวณท้อง
ด้วยที่ทรายชายหาดบริเวณรอบๆหางไม่มีร่องรอยกระจุยกระจาย จึงเชื่อว่าวาฬตัวนี้อาจตายตั้งแต่อยู่ในทะเลแล้ว ก่อนถูกกระแสน้ำซัดขึ้นมาเกยตื่นบริเวณชายหาด ณ โอลด์ ฮันสแตนตัน เมืองนอร์ฟอล์ก ขณะที่ฝูงชนจำนวนมากต่างพากันมามุงดูวาฬตัวดังกล่าว
ด้านโฆษกของหน่วยกู้ชีพทางทะเลของอังกฤษสันนิษฐานว่าวาฬตัวนี้อาจเป็นตัวเดียวกับที่ถูกพบเห็นลอยน้ำตายอยู่ในพิสัยทิ้งระเบิดระหว่างการซ้อมรบของกองทัพอากาศอังกฤษในอีกฟากของชะวากทะเลเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน
วาฬตัวนี้ไม่ใช่ตัวแรกที่ลอยมาเกยตื้นบริเวณชายหาดตามฝั่งทะเลเหนือของอังกฤษ โดยในช่วงปีที่ผ่านมาพบเห็นวาฬถูกกระแสน้ำซัดขึ้นมาเกยตื้นในพื้นที่แถบนี้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะรอบๆฮัมเบอร์ เอสตัวรี
เหล่านักอนุรักษ์เชื่อว่าจำนวนวาฬที่ลอยขึ้นมาเกยตื้นมากขึ้นน่าจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำในทะเลที่นำพาเอากระแสน้ำเย็นจากมหาสมุทรอาร์กติกมายังทะเลเหนือ ทั้งที่ปกติแล้วฝูงวาฬจะไม่ผ่านเข้าใกล้ชายฝั่งของอังกฤษมากขนาดนี้
ด้วยที่ทรายชายหาดบริเวณรอบๆหางไม่มีร่องรอยกระจุยกระจาย จึงเชื่อว่าวาฬตัวนี้อาจตายตั้งแต่อยู่ในทะเลแล้ว ก่อนถูกกระแสน้ำซัดขึ้นมาเกยตื่นบริเวณชายหาด ณ โอลด์ ฮันสแตนตัน เมืองนอร์ฟอล์ก ขณะที่ฝูงชนจำนวนมากต่างพากันมามุงดูวาฬตัวดังกล่าว
ด้านโฆษกของหน่วยกู้ชีพทางทะเลของอังกฤษสันนิษฐานว่าวาฬตัวนี้อาจเป็นตัวเดียวกับที่ถูกพบเห็นลอยน้ำตายอยู่ในพิสัยทิ้งระเบิดระหว่างการซ้อมรบของกองทัพอากาศอังกฤษในอีกฟากของชะวากทะเลเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน
วาฬตัวนี้ไม่ใช่ตัวแรกที่ลอยมาเกยตื้นบริเวณชายหาดตามฝั่งทะเลเหนือของอังกฤษ โดยในช่วงปีที่ผ่านมาพบเห็นวาฬถูกกระแสน้ำซัดขึ้นมาเกยตื้นในพื้นที่แถบนี้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะรอบๆฮัมเบอร์ เอสตัวรี
เหล่านักอนุรักษ์เชื่อว่าจำนวนวาฬที่ลอยขึ้นมาเกยตื้นมากขึ้นน่าจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำในทะเลที่นำพาเอากระแสน้ำเย็นจากมหาสมุทรอาร์กติกมายังทะเลเหนือ ทั้งที่ปกติแล้วฝูงวาฬจะไม่ผ่านเข้าใกล้ชายฝั่งของอังกฤษมากขนาดนี้