xs
xsm
sm
md
lg

"เอร็อด" ฉุนไล่ "ตำนานหวด" พ้นห้องสื่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร็อดดิก ไม่อยากเห็นหน้าอริในห้องแถลงข่าว
เดอะ นิวยอร์ค โพสต์ สื่อดังจากแดนลุงแซม รายงานข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 กันยายนว่า แอนดี ร็อดดิก นักเทนนิสมือวางอันดับ 21 ของโลกชาวอเมริกัน ออกคำสั่งไล่ จอห์น แม็คเอนโร ตำนานแร็กเกตเพื่อนร่วมชาติ ออกจากห้องแถลงข่าวของอีเอสพีเอ็น ระหว่างลงแข่งขันยูเอส โอเพน 2011 โดยอ้างว่าไม่ต้องการอยู่ร่วมห้องเดียวกับอดีตหวดเลือดร้อนที่มักวิจารณ์ฟอร์มการเล่นของตัวเองมาตลอด

อดีตหวดมือ 1 ชาวอเมริกัน สั่งให้ "บิ๊กแม็ค" ออกจากห้องแถลงข่าวของช่องอีเอสพีเอ็น สื่อกีฬาชื่อดังในแดนลุงแซม ที่ตั้งอยู่บริเวณคอร์ต อาร์เธอร์ แอช สเตเดียม ก่อนที่เจ้าตัวจะให้สัมภาษณ์กับคริส ฟาวเลอร์ ผู้สื่อข่าวของอีเอสพีเอ็นที่นำเสนอข่าวของร็อดดิกมาตั้งแต่การแข่งขันรอบแรก ซึ่งแหล่งข่าวรายหนึ่ง เปิดเผยกับเดอะ โพสต์ ว่า ร็อดดิกนั้นไม่พอใจกับคำวิจารณ์ของแม็คเอนโร ที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็นนักวิเคราะห์เกมให้กับ อีเอสพีเอ็น และ ซีบีเอส ในปัจจุบัน

"ร็อดดิกบอกว่าเขาจะยอมให้สัมภาษณ์กับทางอีเอสพีเอ็น ถ้าหาก แม็คเอนโร ที่เป็นคนวิจารณ์เกมในแมทซ์ของเขา บอกว่าจะยอมออกไปจากห้องแถลงข่าว และจะไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆทั้งสิ้น ถ้าเกิดแม็คเอนโร ยังอยู่ใกล้บริเวณนั้น สุดท้ายเขาก็ยอมเดินออกไปแต่โดยดี และไม่มีการต่อสู้กันเกิดขึ้น โดยระหว่างให้สัมภาษณ์คุณย่อมเห็นได้ชัดเลยว่า ร็อดดิก หัวเสียกับคำวิจารณ์เป็นอย่างมาก" แหล่งข่าวรายหนึ่ง ระบุ

ขณะเดียวกัน ร็อดดิก แสดงอาการไม่สบอารมณ์เมื่อถูกถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มีต่อฟอร์มการเล่นของตัวเอง แถมยังประชดประชันด้วยการพูดถึงอาชีพนักวิเคราะห์เกมเทนนิสว่าเป็นงานที่ง่ายที่สุดในโลก "ทุกๆคนย่อมเต็มไปด้วยความคาดหวัง แต่ผมมองว่าตัวเองเหนือกว่าสิ่งที่พวกเขาเป็นอยู่ในตอนนี้ทุกอย่าง"

อย่างไรก็ตาม โฆษกของร็อดดิก ออกมาบอกปัดถึงเรื่องดังกล่าว พร้อมยืนยัน "เอร็อด" ยังนับถือในตัวของแม็คเอนโรอยู่เสมอ และกล่าวว่าหวดวัย 29 ปี ไม่ได้พูดถึงแม็คเอนโรเลยแม้แต่น้อย ส่วน แม็คเอนโร เปิดเผยหลังเดินออกจากห้องแถลงข่าวว่า "ไม่เห็นมีใครมาถามผมสักคนว่าทำไมถึงได้เดินออกมาจากห้องนั้น ผมก็แค่เดินออกมาเพราะเห็นว่างานของตัวเองเสร็จแล้วเท่านั้นเอง"

สำหรับจุดเริ่มต้นแห่งความบาดหมางของทั้งคู่ เกิดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน ในแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน เมื่อ "บิ๊กแม็ค" ออกมากระตุ้นให้ร็อดดิกออกไปทำผลงานในสนามโดยไม่ต้องวอร์ม-อัพ ซึ่งร็อดดิกก็โต้ตอบกลับไปว่าเป็นเรื่องที่ขาดความรับผิดชอบมากเกินไป "ขณะที่กำลังนั่งอยู่ข้างสนามได้ประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง แม็คเอนโรก็ต้องการให้ผมออกไปเสิร์ฟลูกด้วยความเร็ว 145 ไมล์ต่อชั่วโมง ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอก" ขณะที่แบดบอยแห่งวงการเทนนิสอย่าง แม็คเอนโร เผยหลังร็อดดิก ตกรอบในวิมเบิลดันว่าที่พูดไปเพียงเพราะต้องการให้เจ้าตัวปรับปรุงฟอร์มการเล่นเท่านั้น
บิ๊กแม็ค คู่กรณีของร็อดดิก
กำลังโหลดความคิดเห็น