เอเอฟพี - ตลาดยานพาหนะและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติสึนามิที่ญี่ปุ่นอาจต้องเผชิญแรงเสียดทานอีกครั้ง เมื่ออุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งของไทยจมอยู่ใต้บาดาล ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการส่งออกที่สำคัญหลายประเภท
ภาวะน้ำท่วมที่แผ่ขยายไปทั่วที่ราบลุ่มตอนกลางของไทยทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วราว 300 คน ผืนนา 1 ใน 10 ของประเทศต้องจมอยู่ใต้น้ำ และถนนสายสำคัญทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานครไม่สามารถใช้การได้
แม้โรงงานผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในจังหวัดชายฝั่งทะเลตะวันออก ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากอุทกภัย ทว่าการผลิตก็ต้องหยุดชะงักลงด้วย เนื่องจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาถูกน้ำท่วมสูง
ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายรายเตรียมใจยอมรับผลผลิตที่ลดลง โดยกลุ่มบริษัท ซีเกต เทคโนโลยี อิงค์ และเวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ป ของสหรัฐฯ เตือนว่า สินค้าประเภทฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ของบริษัทจะได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ด้วย
ผู้ผลิตชิปรายใหญ่อย่าง โอเอ็น เซมิคอนดักเตอร์ คอร์ป และไมโครเซมิ คอร์ป รวมถึงบริษัท นิคอน สั่งระงับการผลิตที่โรงงานในไทยทั้งหมดแล้ว ขณะที่ แคนนอน อิงก์ ระบุว่า จะโยกย้ายการผลิตเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตไปยังเวียดนามชั่วคราว
วิกฤตอุทกภัยนับเป็นการซ้ำเติมภาคอุตสาหกรรมของไทยที่เพิ่งเผชิญกับภาวะขาดแคลนชิ้นส่วน สืบเนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิที่ญี่ปุ่น เมื่อเดือนมีนาคม
พยุงศักดิ์ ชาติสิทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า ผลกระทบจากน้ำท่วมจะกระเทือนไปไกลถึงต่างประเทศ
“โรงงานในต่างประเทศจะได้รับผลกระทบด้วย เนื่องจากไทยเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนส่งไปยังโรงงานเหล่านั้น ไม่ต่างจากที่ไทยได้รับผลกระทบจากสึนามิที่ญี่ปุ่น ซึ่งทำให้เราขาดแคลนชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหมือนกัน” เขากล่าว
โรงงานฮอนด้าใน จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกกระแสน้ำหลากเข้าท่วมจนรถยนต์ที่จอดไว้นับร้อยคันเกือบจมมิดหลังคา ขณะที่รถบางส่วนถูกนำไปจอดทิ้งไว้บนสะพานเพื่อให้พ้นจากน้ำ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14) โตโยต้า แถลงว่าจะระงับการผลิตในไทยไปจนถึงวันที่ 22 ตุลาคม เป็นอย่างน้อย
“ปี 2011 เป็นปีแห่งภัยธรรมชาติที่เลวร้ายสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น แผ่นดินไหวและสึนามิทำให้ต้องปิดโรงงานไปร่วม 2 เดือน และขณะนี้ภาวะน้ำท่วมก็ยังเป็นอุปสรรคต่อการผลิตในไทยอีก” ฮานส์ กรีเมล บรรณาธิการฝ่ายเอเชียของ ออโตโมบิล นิวส์ แถลงที่กรุงโตเกียว
“ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของโตโยต้า และฮอนด้า ซึ่งทั้ง 2 บริษัทจะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้แน่นอน เพราะต้องพึ่งพาโรงงานต่างประเทศเพื่ดทดแทนกำลังการผลิตในประเทศที่ลดลงหลังเกิดสึนามิ”
ด้านนักวิเคราะห์จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยประเมินว่า น้ำท่วมครั้งใหญ่จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยถึง 150,000 ล้านบาท หรือประมาณ 1.3-1.5 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีตลอดทั้งปี ครอบคลุมทั้งภาคเกษตรกรรม, พาณิชย์ และการท่องเที่ยว
“ถ้ากรุงเทพมหานครถูกน้ำท่วมไปด้วย ความเสียหายจะยิ่งมากขึ้นแน่นอน” ธนวัฒน์ พลวิชัย จากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุ
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยแถลงเมื่อวันศุกร์ (14) ว่าอาจปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยลงในสัปดาห์นี้ จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตถึง 4.1 เปอร์เซ็นต์
