xs
xsm
sm
md
lg

คนจีน‘ปลื้ม’เอกอัครราชทูตสหรัฐฯคนใหม่ (ตอนจบ)

เผยแพร่:   โดย: อู่ จง

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ออนไลน์ www.atimes.com)

US ambassador cuts right cloth for the masses
By Wu Zhong
20/09/2011

แกรี ล็อค ชาวอเมริกันเชื้อสายจีนคนแรกที่ได้รับตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงปักกิ่ง กำลังได้รับความนิยมชมชอบจากชาวจีนจำนวนมาก ตั้งแต่ที่เดินทางมารับหน้าที่ได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ การใช้ชีวิตอย่างประหยัดเรียบง่าย และการวางตัวที่สุภาพไม่อวดเบ่งของเขา กลายเป็นประเด็นฮือฮาในอินเทอร์เน็ต โดยที่มีเสียงวิจารณ์ไม่ขาดสายด้วยว่า การประพฤติปฏิบัติของเขาช่างแตกต่างเป็นตรงกันข้ามกับพฤติกรรมของพวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลแดนมังกร

*ข้อเขียนชิ้นนี้แบ่งเป็น 2 ตอน นี่คือตอนที่ 2 ซึ่งเป็นตอนจบ*

(ต่อจากตอนแรก)

ทว่าจุดไคลแม็กซ์แห่งความฮือฮาเกี่ยวกับแกรี ล็อค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศจีนคนใหม่ ดูจะมาถึงในวันที่ 14 กันยายน ณ การประชุมประจำปีที่จัดโดย เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม โดยใช้ชื่อว่า “แชมเปี้ยนใหม่ของเวทีเศรษฐกิจโลก” (New Champions of the World Economic Forum) ที่เมืองต้าเหลียน เมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของมณฑลเหลียวหนิง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของแดนมังกร รุ่ย เฉิงกัง (Rui Chenggang) พิธีกรผู้ชอบโอ่อวดวางท่าวางทางของสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของจีน (China Central Television หรือ CCTV) ซึ่งเป็นสื่อมวลชนที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ ประสบความสำเร็จในการพาตัวเองเข้าไปอยู่ท่ามกลางแสงสีเจิดจ้าเป็นที่สนอกสนใจของสาธารณชนอีกคำรบหนึ่ง จากการที่เขาตั้งคำถามใส่ล็อคว่า “ได้ยินมาว่าคุณบินมาที่นี่ด้วยเที่ยวบินชั้นประหยัด หรือนี่คือการเตือนให้ระลึกว่าสหรัฐฯยังคงติดหนี้ติดสินจีนอยู่?”

ปรากฏว่าล็อคตอบโดยแจกแจงว่า การนั่งในเที่ยวบินชั้นประหยัดคือการปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานสำหรับเจ้าหน้าที่การทูตทั้งหลายทั้งปวงของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลของสหรัฐฯ ตลอดจนสำหรับสมาชิกในคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดีสหรัฐฯด้วย “ในฐานะที่เป็นคนเรียบๆ ง่ายๆ ผมเชื่อว่าผมเป็นตัวแทนที่ดีคนหนึ่งของวิถีทางที่คนอเมริกันกระทำสิ่งต่างๆ” ล็อคกล่าวต่อ “ผมหวังว่าการเปิดกว้างชนิดนี้จะช่วยให้ชาวจีนและชาวอเมริกันมีความเข้าใจกันและกันดียิ่งขึ้น, ทำลายกำแพงที่ขวางกั้น, และกำจัดความเข้าใจที่ผิดๆ ทั้งหลาย ถึงแม้พวกเราอาจจะมีความแตกต่างกันทั้งในทางวัฒนธรรม, ทางการเมือง, ทางเศรษฐกิจ, และทางปรัชญา อยู่ก็ตาม” [4]

ด้วยความไม่พอใจต่อคำตอบของล็อค ในเวลาต่อมา รุ่ย ได้เขียนในบล็อกของเขาซึ่งอยู่ที่เว็บไซต์ Sina.com ว่า ล็อคมักจะใช้ทุกๆ โอกาสที่เขาสามารถหามาได้ เพื่อการโปรโมตค่านิยมแบบอเมริกัน –โดยเอาแต่เน้นย้ำเฉพาะด้านบวกของสหรัฐฯ ทว่าละเลยไม่พูดถึงด้านลบของสหรัฐฯกันบ้างเลย

รุ่ยเขียนต่อไปว่า “นี่แหละคืองานของเขา ในบรรดาคนที่มารับตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำจีนนั้น เขาอาจจะเป็นคนที่ใจกว้างพร้อมที่จะเปิดเผยตัวเองมากที่สุด และก็เป็นคนที่ทำเช่นนี้ได้อย่างดีเลิศที่สุด จากเป้สะพายหลังไปจนถึงกาแฟไปจนถึงที่นั่งในชั้นประหยัด เขามีความเฉลียวฉลาดในการใช้โอกาสแห่งการปรากฏเป็นภาพถ่ายทุกๆ โอกาสที่เขาฉวยคว้ามาได้ เขาเคยเป็นผู้ว่าการมลรัฐมาก่อน เขารู้ดีถึงวิธีที่จะรับมือกับสื่อมวลชน”

รุ่ย จัดว่าเป็นพิธีกรทางทีวีที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างสูงคนหนึ่งในประเทศจีน เขาทำให้สาธารณชนสนอกสนใจได้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2007 ตอนที่เขาริเริ่มการรณรงค์เพื่อบังคับให้สตาร์บัคส์ถอนตัวจากร้านที่ไปเปิดอยู่ในเขตพระราชวังหลวงของกรุงปักกิ่ง ปีที่แล้ว ระหว่างการประชุมสุดยอดของกลุ่ม จี-20 ที่กรุงโซล รุ่ยกลายเป็นผู้ประพฤติตนเลวๆ ในระดับสากลไปเลย จากการอ้างตัวเองว่าเป็น “ตัวแทนของเอเชีย” เมื่อประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ร้องขออย่างเจาะจงอยากจะได้คำถามจากสื่อของเกาหลีบ้าง

สำหรับคราวนี้ การที่เขาวิจารณ์แสดงความเห็นเกี่ยวกับล็อค ทำให้คอมเมนเตเตอร์และพลเมืองเน็ตชาวจีนทั้งหลายรู้สึกหงุดหงิดโกรธกริ้ว สื่อสิ่งพิมพ์บางฉบับได้ตีพิมพ์บทวิจารณ์ที่เขียนว่า พฤติกรรมของล็อคแสดงให้เห็นว่าในสหรัฐฯมีกฎระเบียบกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินหลวงได้อย่างดีขนาดไหน และพวกเขาเรียกร้องให้รัฐบาลจีนบังคับใช้กฎระเบียนอันเข้มงวดเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินทองของภาคสาธารณะเช่นเดียวกัน

บทวิจารณ์ชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Punyu Daily ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองกว่างโจว เขียนเอาไว้ว่า

“เมื่อเปรียบเทียบกับแกรี ล็อค แล้ว เจ้าหน้าที่ของเราจำนวนมากควรที่จะรู้สึกละอายใจ แม้กระทั่งในสถานที่อันยากจน พวกเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่เคยละเว้นการผลาญเงินหลวง ตัวอย่างสดๆ ตัวอย่างหนึ่งก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นที่ ซีกุ้ย (Zigui) อำเภอที่เต็มไปด้วยความยากจนในมณฑลหูเป่ย ปรากฏว่าที่นั่นต้องใช้จ่ายเงินทองไปถึง 800,000 หยวน (ประมาณ 4 ล้านบาท) ในเวลาเพียง 20 วัน เพื่อเลี้ยงดูคณะผู้ตรวจการณ์จำนวน 13 คนที่มาจากรัฐบาลระดับมณฑล ไม่จำเป็นต้องกล่าวเลยก็ได้ว่า พวกเจ้าหน้าที่ในสถานที่มั่งคั่งร่ำรวย ก็ใช้จ่ายเงินทองสาธารณะกันอย่างสุรุ่ยสุร่ายและสะเพร่าเลินเล่อยิ่งกว่านี้เสียอีก มันเป็นเรื่องตลกที่พูดว่า ล็อคเดินทางด้วยเที่ยวบินชั้นประหยัด เพราะสหรัฐฯติดหนี้จีนอยู่ ทว่ามันเป็นเรื่องข้อเท็จจริงที่เจ้าหน้าที่มากมายเหลือเกินในประเทศจีน คิดเอาจริงๆ ว่าเงินทองนั้นส่งเสียงดังก้องยิ่งกว่าสิ่งใดๆ

ก็อย่างที่ทุกๆ คนทราบกันดีอยู่แล้ว นี่เป็นเพราะ “กฎระเบียบต่างๆ” ที่มีอยู่ในประเทศจีน ไม่ได้ทำให้เกิดผลในทางป้องปรามใดๆ เลย แต่ถ้าหากล็อคทำตัวเฉกเช่นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของมณฑลหูเป่า 13 คนชุดนั้น เที่ยวใช้จ่ายเงินทองในทำนองเดียวกัน รวมแล้วเท่ากับนำเอารายได้ตลอดทั้งปีของชาวนาซีกุ้ยกว่า 200 คนมาพร่าผลาญจนหมดสิ้นภายในเวลาแค่ 20 วัน ทั้งนี้รวมถึง “การรับของขวัญ” ที่มีมูลค่าประมาณ 120,000 หยวนด้วย ถ้าหากเขาทำเช่นที่กล่าวมานี้ อาชีพของล็อคก็คงจะป่นปี้จบสิ้น รวมทั้งเขายังน่าจะต้องเผชิญกับการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอีกด้วย” [5]

บทวิจารณ์ชิ้นอื่นๆ แสดงทัศนะว่า การคิดว่าจีนในเวลานี้มีความเหนือกว่าสหรัฐฯแล้ว เพียงเพราะจีนคือเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของอเมริกา แท้จริงแล้วคือการมีสายตาสั้น เพราะถ้าหากมองกันโดยภาพรวมทั้งหมด สหรัฐฯยังคงเป็นประเทศแข็งแกร่งและก้าวหน้ากว่าจีนมากมายนัก

ยังมีบทวิจารณ์บางชิ้นที่ตั้งคำถามว่า สิ่งที่ล็อคประพฤติปฏิบัติเป็นเพียง “การแสดง” เท่านั้นใช่หรือไม่ จากนั้นก็ตอบว่า แม้กระทั่งมันเป็นการแสดง “การแสดงดังกล่าวก็สามารถที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คน และเรียกร้องความสนับสนุนจากสาธารณชนได้ ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นสิ่งที่ทรงประสิทธิภาพและเป็นสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม” คอลัมน์หนึ่งในหนังสือพิมพ์ หยางเฉิง อีฟนิ่ง นิวส์ (Yangcheng Evening News) ของเมืองกว่างโจว เขียนเอาไว้เช่นนี้ ทั้งนี้ การกล่าวเช่นนี้ย่อมมีนัยว่า แท้ที่จริงแล้ว “การแสดง” ดังกล่าวเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับประเทศจีน ทว่าพวกเจ้าหน้าที่จีนกลับไม่สามารถที่จะทำเรื่องเช่นนี้ได้ เนื่องจากพวกเขาคิดว่าพวกเขามีความเหนือล้ำสูงส่งกว่าประชาชน [6]

ยังมีพลเมืองเน็ตชาวจีนที่เป็นพวกตั้งแง่ชอบเยาะเย้ยถากถาง ประกาศจัด “การแข่งขันเรียงความ” โดยให้ผู้แข่งขันเขียนคำถามในสไตล์คำถามของ รุ่ย เพื่อถากถางเยาะเย้ยแวดวงข้าราชการจีนที่เต็มไปด้วยความทุจริตคอร์รัปชั่น ตลอดจนแสดงความโกรธกริ้วไม่พอใจของตนเอง คำถามเด่นๆ ที่มีผู้ส่งกันมา มีดังเช่น

**ได้ยินมาว่าคุณนำภรรยาของคุณมาปักกิ่งด้วย หรือว่านี่คือการเตือนให้ระลึกว่าพวกคนอเมริกันอย่างคุณช่างงี่เง่าจนกระทั่งไม่ทราบกันเลยว่าพวกเจ้าหน้าที่จีนนั้นสามารถที่จะมีภรรยาน้อยได้?

**ได้ยินมาว่าบ้านเมืองคุณไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ทุจริตมากมายอะไรนัก หรือว่านี่คือการเตือนให้ระลึกว่าประเทศของคุณช่างยากจนเหลือเกินจนไม่มีอะไรที่จะใช้เป็นสินบนได้?

**ได้เห็นพวกผู้นำของคุณมีแต่ผอมๆ แต่ “ผู้รับใช้ประชาชน” ของเรากลับอ้วนท้วนสมบูรณ์เหลือเกิน หรือว่านี่คือการเตือนให้ระลึกว่าพวกคุณยังคงยากจนอยู่?

**ได้ยินมาว่านายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กเดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถไฟใต้ดิน หรือว่านี่คือการเตือนให้ระลึกว่า พวกคุณไม่มีเงินทองกระทั่งไม่สามารถหารถยนต์หลวงมาให้พวกเจ้าหน้าที่ของพวกคุณได้ใช้?

**ได้ยินมาว่าพวกคุณเลือกประธานาธิบดีกันทุกๆ 4 ปี หรือว่านี่คือการเตือนให้ระลึกว่า พวกคุณมีเวลาว่างมากเกินไปแล้ว?

**ได้ยินมาว่าชาวอเมริกันอย่างพวกคุณไม่ได้ร้องเพลงแดง (เพลงปฏิวัติ) กันเลย หรือว่านี่คือการเตือนให้ระลึกว่าพวกคุณไม่ได้มีนักดนตรีที่มีฝีมือเอาเลย?

**ได้ยินมาว่าพวกคุณไม่สร้างรถไฟความเร็วสูง หรือว่านี่คือการเตือนให้ระลึกว่าคนอเมริกันอย่างพวกคุณนั้นขี้ขลาดตาขาว หวาดกลัวความตาย?

**ได้เห็นพวกคุณดูมีความเฉลียวฉลาดกว่าพวกเรา หรือว่านี่คือการเตือนให้ระลึกว่าคนอเมริกันอย่างพวกคุณเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมา โดยไม่เคยกินนมผง “ซานลู่” (Sanlu บริษัทผลิตภัณฑ์นมรายใหญ่ที่ถูกเปิดโปงว่าแอบผสมสารเมลามีนเข้าไปในนมผงของตน)?

ใครก็ตามหากมีความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในจีนแม้เพียงคร่าวๆ ย่อมอดยิ้มแย้มออกมาไม่ได้ เมื่อได้อ่านคำถามเหล่านี้แล้ว

**หมายเหตุ**

4. เนื้อความภาษาจีนดูได้ที่ http://www.nanyang.com/node/383483?tid=461
5. เนื้อความภาษาจีนดูได้ที่ http://pyrb.dayoo.com/html/2011-09/18/content_1479007.htm
6. เนื้อความภาษาจีนดูได้ที่ http://news.21cn.com/today/topic/2011/09/16/9153015.shtml

อู่ จง เป็นบรรณาธิการด้านจีนของเอเชียไทมส์ออนไลน์
กำลังโหลดความคิดเห็น