(เก็บความจากเอเชียไทมส์ออนไลน์ www.atimes.com)
Taliban claim new missiles downing aircraft
By Habiborrahman Ibrahimi
09/09/2011
พวกตอลิบานบอกว่า ได้รับจรวดยิงจากพื้นดินสู่อากาศรุ่นใหม่ที่ทันสมัยและทรงประสิทธิภาพมากมาใช้งาน จึงสามารถยิงเฮลิคอปเตอร์ของสหรัฐฯและของรัฐบาลอัฟกานิสถานตกอย่างน้อย 4 ลำในระยะไม่กี่เดือนมานี้ โดยรวมถึงกรณี ฮ.รุ่นชินุกร่วงที่มีทหารอเมริกันเสียชีวิตไป 30 คนด้วย คำอวดอ้างเช่นนี้ทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับ “สติงเกอร์” จรวดแบบประทับบ่าซึ่งสหรัฐฯจัดส่งให้แก่พวกนักรบมุญะฮิดีนที่สู้รบต่อต้านกองทหารโซเวียตในอัฟกานิสถาน และได้รับการยกย่องว่าเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” ในสงครามคราวนั้น อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลอัฟกานิสถานยังคงยืนยันว่า ตอลิบานไม่น่าจะได้อาวุธไฮเทครุ่นใหม่อะไรหรอก โดยเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินที่ประสบปัญหาในปัจจุบัน ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะเกิดความขัดข้องทางด้านเทคนิค หรือไม่ก็เนื่องจากบินอยู่ในระดับต่ำเกินไป
คาบูล – พวกตอลิบานบอกว่า พวกเขาได้รับจรวดรุ่นใหม่ซึ่งทำให้สามารถยิงทำลายเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organization หรือ NATO) ได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม บรรดานายทหารและผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมต่างไม่เชื่อถือการอวดอ้างเช่นนี้ โดยบอกว่าเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินที่ประสบภัยหลายลำในช่วงหลังๆ นี้ บางลำถูกบังคับให้ต้องร่อนลงจอดฉุกเฉิน เนื่องจากได้รับความเสียหายจากปัญหาทางเทคนิค และถ้าหากมีลำใดถูกยิงจริงๆ ก็น่าจะถูกยิงด้วยอาวุธเท่าที่พวกตอลิบานมีใช้กันอยู่แล้วมากกว่า
มีตัวเลขประมาณการว่า ในช่วงเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา มีเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินทั้งที่เป็นของนาโต้ และของกองกำลังอัฟกานิสถาน จำนวนราว 20 ลำ ตกลงสู่พื้นดินหรือไม่ก็ถูกบังคับให้ต้องร่อนลงฉุกเฉิน
ในบรรดาเหตุการณ์เหล่านี้ ครั้งที่ถือว่าร้ายแรงที่สุด และอันที่จริงเป็นเหตุการณ์อากาศยานประสบภัยที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่กองกำลังนานาชาติรุกรานเข้ามาในอัฟกานิสถานเมื่อ 10 ปีที่แล้วทีเดียว ก็คือ กรณีเฮลิคอปเตอร์แบบ ชินุก (Chinook) ที่กำลังลำเลียงทหารสหรัฐฯ 30 คน และทหารอัฟกานิสถานอีก 8 คน ตกลงในพื้นที่ของจังหวัดวาร์ดัค (Wardak) ในวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา พวกเจ้าหน้าที่นาโต้สันนิษฐานว่า อากาศยานปีกหมุนลำนี้คงจะถูกยิงด้วยจรวดอาร์พีจี
ภายในช่วงไม่กี่วันที่เฮลิคอปเตอร์ ชินุก ลำนี้โหม่งโลกนั้นเอง ยังมีอีกหลายลำที่ประสบภัยเช่นกัน กล่าวคือ มีรายงานว่า เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งถูกยิงตกที่จังหวัดปักเตีย (Paktia) ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของอัฟกานิสถานเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม อีกลำหนึ่งที่จังหวัดโคสต์ (Khost) ในวันที่ 6 สิงหาคม และอีกลำหนึ่งในจังหวัดกันดาฮาร์ (Kandahar) วันที่ 5 สิงหาคม ก่อนหน้านั้นไปอีก นั่นคือ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ชินุกลำหนึ่งก็ถูกสอยร่วงในจังหวัดคูนาร์ (Kunar) ทางภาคตะวันออกของอัฟกานิสถาน รายงานหลายๆ ฉบับของนาโต้บ่งชี้ว่า อากาศยานปีกหมุนที่ประสบเหตุต่างก็สามารถลงสู่พื้นได้ และไม่มีผู้ใดเสียชีวิตจากเหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้
ทางด้าน ซอบิโฮลเลาะห์ โมจาเฮด (Zabihollah Mojahed) โฆษกผู้หนึ่งของตอลิบาน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า นักรบของพวกเขากำลังยิงถูกเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินของศัตรูได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากได้รับจรวดชนิดยิงจากพื้นดินสู่อากาศรุ่นใหม่
เขาไม่ได้ระบุเจาะจงว่าจรวดเหล่านี้เป็นรุ่นไหนหรือผลิตที่ใด แต่บอกให้ทราบว่าเป็นอาวุธชนิดที่พวกนักรบสามารถนำติดตัวไปได้ เวลาจะยิงก็นำมาประทับบ่าเล็งไปยังเป้าหมาย โฆษกผู้นี้กล่าวด้วยว่า เวลานี้จรวดรุ่นใหม่เหล่านี้กำลังลำเลียงขนส่งไปถึงพวกนักรบที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วอัฟกานิสถาน โดยที่จนถึงขณะนี้ ส่งไปถึงหน่วยในจังหวัดต่างๆ ราวครึ่งหนึ่งของจังหวัดทั้งหมดของประเทศแล้ว
“อาวุธชนิดนี้ใช้งานได้ดีมาก และนักรบมุญะฮิดีนในทุกๆ จังหวัดจะได้รับกันในเร็วๆ นี้” เขากล่าว
โมจาเฮดไม่ยอมบอกว่าอาวุธรุ่นใหม่เหล่านี้ประเทศใดเป็นต้นแหล่ง โดยเมื่อถูกถามเขาก็เพียงแต่หัวเราะ และบอกว่า สหรัฐฯกำลังสร้างศัตรูใหม่ๆ ขึ้นมาทุกวัน “เราสามารถเอาอะไรก็ได้ที่เราต้องการ ด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า” เขาบอก
โฆษกตอลิบานผู้นี้กล่าวต่อไปว่า กองกำลังนานาชาติที่นำโดยนาโต้ในอัฟกานิสถาน “ต้องคอยพึ่งพาอาศัยแสนยานุภาพทางอากาศของพวกเขา แต่แสนยานุภาพนี้กำลังจะประสบความพ่ายแพ้ในไม่ช้านี้แล้ว”
ทางด้าน พลจัตวา คาร์สเทน จาคอบเสน (Brigadier-General Carsten Jacobsen) ซึ่งทำหน้าที่โฆษกให้กองกำลังนานาชาตินำโดยนาโต้ ที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า กองกำลังความช่วยเหลือความมั่นคงระหว่างประเทศ (International Security Assistance Force หรือ ISAF) ของนาโต้ ได้ออกมาแถลงข่าวว่า มีเฮลิคอปเตอร์ของทาง ISAF 3 ลำที่ถูกพวกตอลิบานยิงตก ขณะที่กรณีโหม่งโลกและร่อนลงฉุกเฉินอื่นๆ มีสาเหตุมาจากความขัดข้องทางเทคนิค
ในกรณีเฮลิคอปเตอร์ แบบ ชินุก ตกที่จังหวัดวาร์ดัค ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไป 38 คน และเป็นฝีมือสอยร่วงของพวกตอลิบานนั้น จาคอบสันกล่าวว่า “ยังไม่มีความชัดเจนว่าตอลิบานได้รับอาวุธรุ่นใหม่ หรือใช้อาวุธเก่ามายิงเฮลิคอปเตอร์ลำนี้” เขาบอกว่าเวลานี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ร่องรอยสิ่งบ่งชี้ต่างๆ ทั้งหมดออกมาในทางที่ว่า ไม่ได้มีการใช้อาวุธใหม่ในกรณีนี้
เช่นเดียวกับทางด้านนาโต้ กองทัพอัฟกานิสถานก็มีฝูงเฮลิคอปเตอร์ของตนเอง และ พล.อ. ซอเฮอร์ อาซิมิ (General Zaher Azimi) โฆษกกระทรวงกลาโหมอัฟกานิสถาน กล่าวยอมรับว่ามีหลายลำที่ตก แต่เขาระบุว่าสาเหตุเนื่องจากปัญหาทางเทคนิค ทำให้เครื่องเกิดขัดข้อง
“เรื่องอย่างนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้อยู่แล้วในระหว่างการปฏิบัติการทางทหาร” เขาบอก “แต่มันไม่ได้หมายความว่า ฝ่ายข้าศึกได้รับอาวุธรุ่นใหม่ๆ หรือพวกเขามีความเข้มแข็งมากกว่าแล้ว”
ขณะที่ พล.อ. อับดุล วาฮับ วาร์ดัค (General Abdul Wahab Wardak) ผู้บัญชาการทหารอากาศอัฟกานิสถาน แถลงว่า การที่พวกผู้ก่อความไม่สงบออกมาอ้างว่ามีอาวุธรุ่นใหม่ที่ทันสมัยและทรงประสิทธิภาพนั้น เป็นเพียงการคุยโตเท่านั้น
“ตอลิบานใช้การโฆษณาชวนเชื่อชนิดนี้เพื่อปลุกขวัญกำลังใจของนักรบของพวกเขา” นายพลผู้นี้บอก
เขากล่าวต่อไปว่า เนื่องจากสงครามความขัดแย้งในอัฟกานิสถานดำเนินมาถึง 30 ปีแล้ว พวกปืนกลทำในโซเวียตจึงมีอยู่เกลื่อนกล่นมากมาย และน่าจะเป็นอาวุธชนิดนี้แหละที่ถูกนำมาใช้สอยเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบิน ตามยุทธวิธีที่เน้นความห้าวบ้าบิ่นมากขึ้น และแข็งกร้าวยิ่งขึ้น ซึ่งพวกตอลิบานพยายามนำมาใช้ก่อนหน้าที่กองทหารต่างชาติจะถอนตัวออกไปตามกำหนดที่วางไว้ในปี 2014
“อัฟกานิสถานเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยภูกเขา ขณะที่พวกนักบินของนาโต้ก็ไม่ได้คุ้นเคยสภาพภูมิประเทศ” ผู้บัญชาการทหารอากาศอัฟกานิสถานกล่าว “พวกเขายังทำความผิดพลาดด้วยการบินในระยะต่ำ ดังนั้นพวกเขาจึงตกเป็นเป้าหมาย อาจถูกยิงด้วยอาวุธต่อต้านอากาศยานแบบธรรมดาๆ นี่เอง”
อาวุธธรรมดาๆ ที่นายพลผู้นี้พูดถึง หมายรวมไปถึงอาวุธอย่างเช่น ปืนกลหนัก ดีเอสเอชเค (DShk heavy machine gun) ผลิตในโซเวียตซึ่งแม้ล้าสมัยแล้วแต่ก็ยังมีอานุภาพสูง, เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี, ตลอดจนอาวุธอื่นๆ ซึ่งมีสมรรถนะที่จะสอยเฮลิคอปเตอร์ที่บินต่ำได้ ถ้าหากเล็งให้แม่นยำเพียงพอ อาวุธเหล่านี้ในอัฟกานิสถานปัจจุบันยังสามารถที่จะหาได้อย่างไม่ลำบากยากเย็นเลย
ตั้งแต่ปี 1986 เป็นต้นมา รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ลำเลียงจรวดแบบสติงเกอร์ (Stinger) จำนวนหลายร้อยชุดมาให้พวกนักรบมุญะฮิดีนในอัฟกานิสถาน เพื่อใช้โจมตีเฮลิคอปเตอร์ทหารของสหภาพโซเวียต โดยเฉพาะพวกเฮลิคอปเตอร์กันชิปที่ชอบบินในระดับต่ำๆ เพื่อค้นหาและถล่มที่หลบซ่อนของนักรบมุญะฮิดีน
หลังจากที่ทหารโซเวียตถอนตัวออกไปจากอัฟกานิสถานในปี 1989 ฝ่ายอเมริกันก็พยายามรวบรวมและนำเอาจรวดแบบนี้กลับออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พวกผู้เชี่ยวชาญบอกว่า หากพวกตอลิบานเวลานี้มีจรวดแบบประทับบ่าอยู่จริงๆ ตามที่คุยเอาไว้ จรวดเหล่านี้ก็ไม่น่าที่จะเป็นสติงเกอร์ที่ตกค้างมาจากช่วงทศวรรษ 1980
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ปฏิเสธไม่เชื่อถือข้ออ้างของตอลิบานที่ว่า พวกเขากำลังยิงอากาศยานได้มากขึ้นเรื่อยๆ
นูโรลฮัก โอลูมิ (Nurolhaq Olumi) นักการเมืองจากจังหวัดกันดาฮาร์ และครั้งหนึ่งเคยเป็นทหารยศพนายพลในกองทัพอัฟกานิสถาน บอกว่าเขาเชื่อว่านาโต้กำลังสูญเสียเฮลิคอปเตอร์จากการถูกยิงตก เป็นจำนวนมากขึ้นทุกที ทว่าไม่ค่อยยอมเปิดเผยความจริง
“พวกนายพลของนาโต้ไม่ได้พูดความจริงหรอก เมื่อพวกเขาบอกว่าเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาเพียงแค่ต้องร่อนลงฉุกเฉินเพราะเจอปัญหาขัดข้องทางเทคนิค” นักการเมืองผู้นี้กล่าว “จริงๆ แล้วกองกำลังของศัตรูสามารถยิงถูกอากาศยานของพวกเขาต่างหาก ในขณะที่กำลังบินกันต่ำๆ”
โอลูมิบอกอีกว่า ถ้าหากในเวลานี้ตอลิบานยังไม่ได้มีระบบอาวุธต่อต้านอากาศยานรุ่นใหม่ๆ แล้ว พวกเขาก็ยังน่าที่จะหามาใช้ได้อยู่ดี และเรื่องนี้จะทำให้สงครามความขัดแย้งในอัฟกานืสถานยิ่งยืดเยื้อออกไป เขาให้ความเห็นว่า ตอลิบานน่าจะหาอาวุธดังกล่าวได้จากอิหร่านหรือปากีสถาน โดยที่นักการเมืองผู้นี้เชื่อว่า ประเทศทั้งสองนี้ “ต่างต้องการให้นาโต้ประสบความล้มเหลวในอัฟกานิสถาน”
ฮาบิบอร์เราะห์มาน อิบรอฮิมิ เป็นผู้สื่อข่าวอิสระในกรุงคาบูล
Taliban claim new missiles downing aircraft
By Habiborrahman Ibrahimi
09/09/2011
พวกตอลิบานบอกว่า ได้รับจรวดยิงจากพื้นดินสู่อากาศรุ่นใหม่ที่ทันสมัยและทรงประสิทธิภาพมากมาใช้งาน จึงสามารถยิงเฮลิคอปเตอร์ของสหรัฐฯและของรัฐบาลอัฟกานิสถานตกอย่างน้อย 4 ลำในระยะไม่กี่เดือนมานี้ โดยรวมถึงกรณี ฮ.รุ่นชินุกร่วงที่มีทหารอเมริกันเสียชีวิตไป 30 คนด้วย คำอวดอ้างเช่นนี้ทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับ “สติงเกอร์” จรวดแบบประทับบ่าซึ่งสหรัฐฯจัดส่งให้แก่พวกนักรบมุญะฮิดีนที่สู้รบต่อต้านกองทหารโซเวียตในอัฟกานิสถาน และได้รับการยกย่องว่าเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” ในสงครามคราวนั้น อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลอัฟกานิสถานยังคงยืนยันว่า ตอลิบานไม่น่าจะได้อาวุธไฮเทครุ่นใหม่อะไรหรอก โดยเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินที่ประสบปัญหาในปัจจุบัน ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะเกิดความขัดข้องทางด้านเทคนิค หรือไม่ก็เนื่องจากบินอยู่ในระดับต่ำเกินไป
คาบูล – พวกตอลิบานบอกว่า พวกเขาได้รับจรวดรุ่นใหม่ซึ่งทำให้สามารถยิงทำลายเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organization หรือ NATO) ได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม บรรดานายทหารและผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมต่างไม่เชื่อถือการอวดอ้างเช่นนี้ โดยบอกว่าเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินที่ประสบภัยหลายลำในช่วงหลังๆ นี้ บางลำถูกบังคับให้ต้องร่อนลงจอดฉุกเฉิน เนื่องจากได้รับความเสียหายจากปัญหาทางเทคนิค และถ้าหากมีลำใดถูกยิงจริงๆ ก็น่าจะถูกยิงด้วยอาวุธเท่าที่พวกตอลิบานมีใช้กันอยู่แล้วมากกว่า
มีตัวเลขประมาณการว่า ในช่วงเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา มีเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินทั้งที่เป็นของนาโต้ และของกองกำลังอัฟกานิสถาน จำนวนราว 20 ลำ ตกลงสู่พื้นดินหรือไม่ก็ถูกบังคับให้ต้องร่อนลงฉุกเฉิน
ในบรรดาเหตุการณ์เหล่านี้ ครั้งที่ถือว่าร้ายแรงที่สุด และอันที่จริงเป็นเหตุการณ์อากาศยานประสบภัยที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่กองกำลังนานาชาติรุกรานเข้ามาในอัฟกานิสถานเมื่อ 10 ปีที่แล้วทีเดียว ก็คือ กรณีเฮลิคอปเตอร์แบบ ชินุก (Chinook) ที่กำลังลำเลียงทหารสหรัฐฯ 30 คน และทหารอัฟกานิสถานอีก 8 คน ตกลงในพื้นที่ของจังหวัดวาร์ดัค (Wardak) ในวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา พวกเจ้าหน้าที่นาโต้สันนิษฐานว่า อากาศยานปีกหมุนลำนี้คงจะถูกยิงด้วยจรวดอาร์พีจี
ภายในช่วงไม่กี่วันที่เฮลิคอปเตอร์ ชินุก ลำนี้โหม่งโลกนั้นเอง ยังมีอีกหลายลำที่ประสบภัยเช่นกัน กล่าวคือ มีรายงานว่า เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งถูกยิงตกที่จังหวัดปักเตีย (Paktia) ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของอัฟกานิสถานเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม อีกลำหนึ่งที่จังหวัดโคสต์ (Khost) ในวันที่ 6 สิงหาคม และอีกลำหนึ่งในจังหวัดกันดาฮาร์ (Kandahar) วันที่ 5 สิงหาคม ก่อนหน้านั้นไปอีก นั่นคือ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ชินุกลำหนึ่งก็ถูกสอยร่วงในจังหวัดคูนาร์ (Kunar) ทางภาคตะวันออกของอัฟกานิสถาน รายงานหลายๆ ฉบับของนาโต้บ่งชี้ว่า อากาศยานปีกหมุนที่ประสบเหตุต่างก็สามารถลงสู่พื้นได้ และไม่มีผู้ใดเสียชีวิตจากเหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้
ทางด้าน ซอบิโฮลเลาะห์ โมจาเฮด (Zabihollah Mojahed) โฆษกผู้หนึ่งของตอลิบาน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า นักรบของพวกเขากำลังยิงถูกเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินของศัตรูได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากได้รับจรวดชนิดยิงจากพื้นดินสู่อากาศรุ่นใหม่
เขาไม่ได้ระบุเจาะจงว่าจรวดเหล่านี้เป็นรุ่นไหนหรือผลิตที่ใด แต่บอกให้ทราบว่าเป็นอาวุธชนิดที่พวกนักรบสามารถนำติดตัวไปได้ เวลาจะยิงก็นำมาประทับบ่าเล็งไปยังเป้าหมาย โฆษกผู้นี้กล่าวด้วยว่า เวลานี้จรวดรุ่นใหม่เหล่านี้กำลังลำเลียงขนส่งไปถึงพวกนักรบที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วอัฟกานิสถาน โดยที่จนถึงขณะนี้ ส่งไปถึงหน่วยในจังหวัดต่างๆ ราวครึ่งหนึ่งของจังหวัดทั้งหมดของประเทศแล้ว
“อาวุธชนิดนี้ใช้งานได้ดีมาก และนักรบมุญะฮิดีนในทุกๆ จังหวัดจะได้รับกันในเร็วๆ นี้” เขากล่าว
โมจาเฮดไม่ยอมบอกว่าอาวุธรุ่นใหม่เหล่านี้ประเทศใดเป็นต้นแหล่ง โดยเมื่อถูกถามเขาก็เพียงแต่หัวเราะ และบอกว่า สหรัฐฯกำลังสร้างศัตรูใหม่ๆ ขึ้นมาทุกวัน “เราสามารถเอาอะไรก็ได้ที่เราต้องการ ด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า” เขาบอก
โฆษกตอลิบานผู้นี้กล่าวต่อไปว่า กองกำลังนานาชาติที่นำโดยนาโต้ในอัฟกานิสถาน “ต้องคอยพึ่งพาอาศัยแสนยานุภาพทางอากาศของพวกเขา แต่แสนยานุภาพนี้กำลังจะประสบความพ่ายแพ้ในไม่ช้านี้แล้ว”
ทางด้าน พลจัตวา คาร์สเทน จาคอบเสน (Brigadier-General Carsten Jacobsen) ซึ่งทำหน้าที่โฆษกให้กองกำลังนานาชาตินำโดยนาโต้ ที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า กองกำลังความช่วยเหลือความมั่นคงระหว่างประเทศ (International Security Assistance Force หรือ ISAF) ของนาโต้ ได้ออกมาแถลงข่าวว่า มีเฮลิคอปเตอร์ของทาง ISAF 3 ลำที่ถูกพวกตอลิบานยิงตก ขณะที่กรณีโหม่งโลกและร่อนลงฉุกเฉินอื่นๆ มีสาเหตุมาจากความขัดข้องทางเทคนิค
ในกรณีเฮลิคอปเตอร์ แบบ ชินุก ตกที่จังหวัดวาร์ดัค ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไป 38 คน และเป็นฝีมือสอยร่วงของพวกตอลิบานนั้น จาคอบสันกล่าวว่า “ยังไม่มีความชัดเจนว่าตอลิบานได้รับอาวุธรุ่นใหม่ หรือใช้อาวุธเก่ามายิงเฮลิคอปเตอร์ลำนี้” เขาบอกว่าเวลานี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ร่องรอยสิ่งบ่งชี้ต่างๆ ทั้งหมดออกมาในทางที่ว่า ไม่ได้มีการใช้อาวุธใหม่ในกรณีนี้
เช่นเดียวกับทางด้านนาโต้ กองทัพอัฟกานิสถานก็มีฝูงเฮลิคอปเตอร์ของตนเอง และ พล.อ. ซอเฮอร์ อาซิมิ (General Zaher Azimi) โฆษกกระทรวงกลาโหมอัฟกานิสถาน กล่าวยอมรับว่ามีหลายลำที่ตก แต่เขาระบุว่าสาเหตุเนื่องจากปัญหาทางเทคนิค ทำให้เครื่องเกิดขัดข้อง
“เรื่องอย่างนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้อยู่แล้วในระหว่างการปฏิบัติการทางทหาร” เขาบอก “แต่มันไม่ได้หมายความว่า ฝ่ายข้าศึกได้รับอาวุธรุ่นใหม่ๆ หรือพวกเขามีความเข้มแข็งมากกว่าแล้ว”
ขณะที่ พล.อ. อับดุล วาฮับ วาร์ดัค (General Abdul Wahab Wardak) ผู้บัญชาการทหารอากาศอัฟกานิสถาน แถลงว่า การที่พวกผู้ก่อความไม่สงบออกมาอ้างว่ามีอาวุธรุ่นใหม่ที่ทันสมัยและทรงประสิทธิภาพนั้น เป็นเพียงการคุยโตเท่านั้น
“ตอลิบานใช้การโฆษณาชวนเชื่อชนิดนี้เพื่อปลุกขวัญกำลังใจของนักรบของพวกเขา” นายพลผู้นี้บอก
เขากล่าวต่อไปว่า เนื่องจากสงครามความขัดแย้งในอัฟกานิสถานดำเนินมาถึง 30 ปีแล้ว พวกปืนกลทำในโซเวียตจึงมีอยู่เกลื่อนกล่นมากมาย และน่าจะเป็นอาวุธชนิดนี้แหละที่ถูกนำมาใช้สอยเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบิน ตามยุทธวิธีที่เน้นความห้าวบ้าบิ่นมากขึ้น และแข็งกร้าวยิ่งขึ้น ซึ่งพวกตอลิบานพยายามนำมาใช้ก่อนหน้าที่กองทหารต่างชาติจะถอนตัวออกไปตามกำหนดที่วางไว้ในปี 2014
“อัฟกานิสถานเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยภูกเขา ขณะที่พวกนักบินของนาโต้ก็ไม่ได้คุ้นเคยสภาพภูมิประเทศ” ผู้บัญชาการทหารอากาศอัฟกานิสถานกล่าว “พวกเขายังทำความผิดพลาดด้วยการบินในระยะต่ำ ดังนั้นพวกเขาจึงตกเป็นเป้าหมาย อาจถูกยิงด้วยอาวุธต่อต้านอากาศยานแบบธรรมดาๆ นี่เอง”
อาวุธธรรมดาๆ ที่นายพลผู้นี้พูดถึง หมายรวมไปถึงอาวุธอย่างเช่น ปืนกลหนัก ดีเอสเอชเค (DShk heavy machine gun) ผลิตในโซเวียตซึ่งแม้ล้าสมัยแล้วแต่ก็ยังมีอานุภาพสูง, เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี, ตลอดจนอาวุธอื่นๆ ซึ่งมีสมรรถนะที่จะสอยเฮลิคอปเตอร์ที่บินต่ำได้ ถ้าหากเล็งให้แม่นยำเพียงพอ อาวุธเหล่านี้ในอัฟกานิสถานปัจจุบันยังสามารถที่จะหาได้อย่างไม่ลำบากยากเย็นเลย
ตั้งแต่ปี 1986 เป็นต้นมา รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ลำเลียงจรวดแบบสติงเกอร์ (Stinger) จำนวนหลายร้อยชุดมาให้พวกนักรบมุญะฮิดีนในอัฟกานิสถาน เพื่อใช้โจมตีเฮลิคอปเตอร์ทหารของสหภาพโซเวียต โดยเฉพาะพวกเฮลิคอปเตอร์กันชิปที่ชอบบินในระดับต่ำๆ เพื่อค้นหาและถล่มที่หลบซ่อนของนักรบมุญะฮิดีน
หลังจากที่ทหารโซเวียตถอนตัวออกไปจากอัฟกานิสถานในปี 1989 ฝ่ายอเมริกันก็พยายามรวบรวมและนำเอาจรวดแบบนี้กลับออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พวกผู้เชี่ยวชาญบอกว่า หากพวกตอลิบานเวลานี้มีจรวดแบบประทับบ่าอยู่จริงๆ ตามที่คุยเอาไว้ จรวดเหล่านี้ก็ไม่น่าที่จะเป็นสติงเกอร์ที่ตกค้างมาจากช่วงทศวรรษ 1980
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ปฏิเสธไม่เชื่อถือข้ออ้างของตอลิบานที่ว่า พวกเขากำลังยิงอากาศยานได้มากขึ้นเรื่อยๆ
นูโรลฮัก โอลูมิ (Nurolhaq Olumi) นักการเมืองจากจังหวัดกันดาฮาร์ และครั้งหนึ่งเคยเป็นทหารยศพนายพลในกองทัพอัฟกานิสถาน บอกว่าเขาเชื่อว่านาโต้กำลังสูญเสียเฮลิคอปเตอร์จากการถูกยิงตก เป็นจำนวนมากขึ้นทุกที ทว่าไม่ค่อยยอมเปิดเผยความจริง
“พวกนายพลของนาโต้ไม่ได้พูดความจริงหรอก เมื่อพวกเขาบอกว่าเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาเพียงแค่ต้องร่อนลงฉุกเฉินเพราะเจอปัญหาขัดข้องทางเทคนิค” นักการเมืองผู้นี้กล่าว “จริงๆ แล้วกองกำลังของศัตรูสามารถยิงถูกอากาศยานของพวกเขาต่างหาก ในขณะที่กำลังบินกันต่ำๆ”
โอลูมิบอกอีกว่า ถ้าหากในเวลานี้ตอลิบานยังไม่ได้มีระบบอาวุธต่อต้านอากาศยานรุ่นใหม่ๆ แล้ว พวกเขาก็ยังน่าที่จะหามาใช้ได้อยู่ดี และเรื่องนี้จะทำให้สงครามความขัดแย้งในอัฟกานืสถานยิ่งยืดเยื้อออกไป เขาให้ความเห็นว่า ตอลิบานน่าจะหาอาวุธดังกล่าวได้จากอิหร่านหรือปากีสถาน โดยที่นักการเมืองผู้นี้เชื่อว่า ประเทศทั้งสองนี้ “ต่างต้องการให้นาโต้ประสบความล้มเหลวในอัฟกานิสถาน”
ฮาบิบอร์เราะห์มาน อิบรอฮิมิ เป็นผู้สื่อข่าวอิสระในกรุงคาบูล