เอเอฟพี - การปฏิบัติภารกิจยามวิกาลของกองกำลังนาโตในอัฟกานิสถานที่เพิ่มขึ้น 5 เท่า ส่งผลสะท้อนกลับรุนแรงจากชาวบ้าน มิหนำซ้ำยังทำให้ชีวิตพลเรือนตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น มูลนิธิโอเพน โซไซตี รายงานผลการศึกษา วันนี้ (19)
กำลังทหารนานาชาติที่มีสหรัฐฯ เป็นแกนนำใช้แผนปฏิบัติการกวาดล้างยามวิกาล ทยอยเก็บกวาดสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงทั่วอัฟกานิสถานในทุกๆ คืน ควบคู่กับโครงการรณรงค์ต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการชักจูงพลเรือนอัฟกันให้เลิกสนับสนุนกลุ่มตอลิบาน
อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติภารกิจดังกล่าวยิ่งทำให้พลเรือนเอาใจออกห่างทหารนานาชาติ สำนักประสานงานอัฟกานิสถาน และมูลนิธิโอเพน โซไซตี ของจอร์จ โซรอส รายงาน
รายงานฉบับนี้ระบุว่า “การเพิ่มจำนวนปฏิบัติการยามวิกาลทำให้สนามรบเข้าใกล้บ้านเรือนประชาชนโดยตรงมากขึ้น ส่งผลให้พลเรือนอัฟกานิสถานมีปฏิกิริยาต่อต้านรุนแรง”
การขาดการอธิบายและความโปร่งใสยิ่งทำให้ “ชาวอัฟกันรู้สึกว่าทหารนานาชาติใช้ปฏิบัติการยามค่ำคืน เพื่อสังหาร คุกคาม และข่มขู่พลเรือน โดยมีอาญาสิทธิ์คุ้มครอง”
รายงานชิ้นนี้ยังเปิดเผยว่าระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2009 - ธันวาคม 2010 จำนวนปฏิบัติการยามวิกาลของนาโตเพิ่มขึ้น 5 เท่า โดยเฉลี่ยทหารนานาชาติจะปฏิบัติการไล่ล่าตอลิบาน 19 ภารกิจต่อหนึ่งคืน
บ่อยครั้งที่ประธานาธิบดี ฮามิด คาร์ไซ แห่งอัฟกานิสถาน แสดงบทบาทวิพากษ์วิจารณ์ทหารต่างชาติที่ทำให้พลเรือนเสียชีวิตจำนวนมากตลอดสงคราม 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่กำลังทหารที่นำโดยสหรัฐฯ กรีธาทัพเข้ารุกรานอัฟกานิสถาน โค่นล้มระบอบตอลิบาน ทว่า เหล่าผู้บัญชาทหารนาโตโต้แย้งว่า ปฏิบัติการยามวิกาลเป็นปัจจัยสำคัญในการต่อสู้กับกลุ่มหัวรุนแรงที่มีพิษสงรอบกาย และทหารได้ทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อป้องกันการสูญเสียของพลเรือน
ทั้งนี้ ทหารต่างชาติประมาณ 140,000 นาย ส่วนใหญ่เป็นทหารอเมริกัน ประจำการอยู่ในอัฟกานิสถาน เพื่อช่วยรัฐบาลฮามิด คาร์ไซ ปราบปรามกลุ่มตอลิบาน และมีกำหนดถอนทัพออกจากอัฟกานิสถานภายในสิ้นปี 2014