เอเอฟพี - ทางการปากีสถานวิงวอนต่อประชาคมโลกเมื่อวันอังคาร (13) ให้เร่งส่งความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ หลังจากลมฝนมรสุมกระหน่ำซ้ำเติมพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 270 ราย และประชาชนอีกกว่า 200,000 ราย ทางตอนใต้ของประเทศกำลังไร้ที่พักพิง
ฝ่ายปกครองในท้องที่ต่างๆ รายงานว่า พื้นที่เกษตรกรรมหลักหลายๆ ส่วนของประเทศกำลังเผชิญวิกฤตน้ำท่วมเลวร้ายยิ่งกว่าอุทกภัยเมื่อปีที่แล้ว โดยพื้นที่ 1 ใน 5 ของปากีสถานจมอยู่ใต้บาดาล และมีผู้ได้รับผลกระทบราว 21 ล้านคน
รัฐบาลกรุงอิสลามาบัดพยายามแก้ลำข้อครหากรณีการรับมือปัญหาดังกล่าว ด้วยการร้องขอความช่วยเหลือจากองค์การระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา องค์กรต่างๆ เคยเตือนรัฐบาลปากีสถานให้เร่งลงทุนในมาตรการป้องกันน้ำท่วม เพื่อหาทางบรรเทาภัยร้ายจากฤดูฝน, หลีกเลี่ยงอุทกภัยซ้ำรอยปี 2010 ซึ่งสร้างความเสียหายกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 300,000 ล้านบาท) และปกป้องชีวิตประชาชนที่เปราะบาง หลังเผชิญภัยธรรมชาติเป็นปีที่สองติดต่อกัน
“มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 270 ราย จากหลังคาถล่ม, จมน้ำ, และโรคภัยไข้เจ็บในครอบครัวผู้ประสบภัย” ซัจจาด ไฮเดอร์ ชาห์ เจ้าหน้าที่สำนักจัดการภัยพิบัติในแคว้นสินธุ์ กล่าว ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐบาลเปิดเผยว่า ประชาชนอย่างน้อย 5.3 ล้านคน และบ้านเรือนอีกประมาณ 1.2 ล้านหลัง ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม ซาร์วาร์ บารี ผู้ประสานงานองค์กร “ปัตตัน” (Pattan) หน่วยงานการกุศลซึ่งทำงานในพื้นที่ประสบภัย แสดงความกังวลไว้ว่าประชาชน 10 ล้านคน กำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงภัย หลังจากตกอยู่ในสภาพย่ำแย่จากภัยธรรมชาติ
สำนักอุตุนิยมวิทยาของปากีสถานรายงานว่า แคว้นสินธุ์มีปริมาณน้ำฝนสะสมมากกว่า 3 เท่า จากช่วงเวลาปกติ และฝนจะตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ โครงการอาหารโลกของยูเอ็นกำลังเร่งแจกจ่ายเสบียงอาหารให้กับผู้ประสบภัยราว 500,000 คน ขณะที่องค์การสหประชาชาติเปิดเผยว่า กำลังส่งความช่วยเหลือด้านอาหารให้กับชาวปากีสถาน 350,000 คน และความช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับผู้ประสบภัยอีกประมาณ 500,000 คน แม้ความสัมพันธ์กับรัฐบาลปากีสถานจะถดถอย หลังจากหน่วยคอมมานโดสหรัฐฯ สังหารอุซามะห์ บิน ลาดิน ในแหล่งกบดานที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวงปากีสถาน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
