xs
xsm
sm
md
lg

Analysis: กองทัพปากีฯ สุดอดสู! เรื่องบิน ลาดินยังไม่ทันหาย เรื่องตอลิบานเข้ามาแทรก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กลุ่มตอลิบานไม่เกิน 6 คนสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงด้วยการระเบิดเครื่องบินตรวจการณ์ พี-3 ซี โอไรออน 2 ลำ พร้อมกับสังหารเจ้าหน้าที่ความมั่นคงปากีสถานอีก 10 ราย
เอเอฟพี - การบุกยึดอาคารภายในฐานทัพเรือ กลางนครการาจีของกลุ่มตอลิบานเพียง 6 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาถึง 17 ชั่วโมงในการระงับเหตุ ได้สร้างความอัปยศอดสูแก่กองทัพปากีสถานอีกครั้ง หลังกรุงอิสลามาบัดยังคงเจ็บปวดจากปฏิบัติการลับล่าสังหารอุซามะห์ บิน ลาดิน ของหน่วยคอมมานโดสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นวิเคราะห์ไว้เช่นนั้น

ช่วงดึกคืนวันอาทิตย์ (22) นักรบตอลิบานจำนวนไม่เกิน 6 คน พร้อมอาวุธครบมือทั้งเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี ลูกระเบิดมือ วัตถุระเบิด และปืนยาวไรเฟิล อาศัยความมืดพาดบันไดเข้ากับกำแพงฐานทัพเรือพีเอ็นเอส เมห์ราน ก่อนปีนข้ามลวดหนามเข้าไปยังเขตทหาร

กลุ่มตอลิบานสามารถทำลายเครื่องบินตรวจการณ์ พี-3 ซี โอไรออน 2 ลำ มูลค่าประมาณ 36 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,000 ล้านบาท) โดยกองทัพสหรัฐฯ เพิ่งส่งอากาศยานปราบเรือดำน้ำทั้งสองลำให้กับทางการปากีสถานประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา ต่อมา กำลังเสริมหลายสิบนายถูกระดมพลมายังสถานที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ความมั่นคงปากีสถานเสียชีวิต 10 คน หลังยิงปะทะกับนักรบตอลิบานที่มีจำนวนเพียงหยิบมือ

อิมเตียซ กุล นักเขียนชาวปากีสถานวิจารณ์ว่า “ช่วงเวลานี้เป็นสถานการณ์ล่อแหลมต่อเรื่องความสามารถของกองทัพเรือปากีสถานในการปกป้องฐานทัพและยุทโธปกรณ์”

การบุกกองบินนาวี ฐานทัพเรือเมห์ราน นครการาจี เป็นการโจมตีครั้งที่ 4 ในรอบเดือน โดยครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายร้ายแรงที่สุด นับตั้งแต่เหตุการณ์บุกยึดศูนย์บัญชาการทหารแห่งชาติปากีสถาน เมืองราวัลปินดี เป็นเวลา 2 วัน เมื่อเดือนตุลาคม 2009 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 22 ราย

วันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา มือระเบิดตอลิบานก่อเหตุสังหารผู้คนไปทั้งสิ้น 98 ราย ภายนอกศูนย์ฝึกกองกำลังรักษาชายแดน เมืองชับกอดาร์ เพื่อแก้แค้นให้กับอุซามะห์ บิน ลาดิน ถือเป็นการก่อเหตุครั้งรุนแรงที่สุดในปากีสถาน ตั้งแต่สถานการณ์ความไม่สงบเริ่มขึ้นเมื่อต้นปี 2010

หลังเหตุการณ์วานนี้สงบลง เรห์มาน มาลิก รัฐมนตรีมหาดไทยปากีสถาน เปิดเผยว่านักรบตอลิบานเสียชีวิตไป 4 ราย และอาจมีผู้ก่อเหตุหนีรอดไปได้ 2 คน นอกจากนี้ รัฐมนตรีมาลิกกล่าวว่า มีคนแนะนำไม่ให้จัดแถลงข่าวที่บริเวณประตูใหญ่ทางเข้าฐานทัพ เนื่องจากเกรงว่าอาจมีมือระเบิดฆ่าตัวตายซ่อนตัวอยู่ในป่ารอบข้าง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังปฏิบัติการลับของหน่วยคอมมานโดสหรัฐฯ ในภารกิจล่าตัวอุซามะห์ บิน ลาดิน ผู้ก่อตั้งกลุ่มอัลกออิดะห์ ที่เมืองอับบอตตาบัด ภายใต้ร่มเงาของโรงเรียนนายร้อยชั้นนำของปากีสถาน ปฏิบัติการดังกล่าวถือเป็นการเหยียบหน้าปากีสถาน เมื่อบุรุษที่โลกต้องการตัวมากที่สุดสามารถอาศัยอยู่ใจกลางของประเทศ ขณะนี้กองทัพปากีสถานกำลังถูกชั่งน้ำหนักระหว่างความไร้สมรรถภาพ หรือ การสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มก่อการร้ายกันแน่

“เรื่องที่เกิดขึ้นจะสร้างความวุ่นวาย และส่งข้อความว่าประเทศนี้ไม่มั่นคง ปลุกให้กลุ่มหัวรุนแรงห้าวหาญ จนอาจวางแผนโจมตีที่รุนแรงยิ่งขึ้นด้วยเป้าหมายใหญ่กว่าเดิม” เราะห์อีมุลเลาะห์ ยูซุฟเซีย อีกหนึ่งนักวิเคราะห์ชาวปากีสถาน กล่าว “การโจมตีฐานทัพเรือเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับผู้ที่อ้างว่าอาวุธนิวเคลียร์ในปากีสถานไม่อยู่ในสถานะปลอดภัย”

ความกังวลเหนือสิ่งอื่นใดของปากีสถานสืบเนื่องจากปฏิบัติการของหน่วยซีลส์สหรัฐฯ ตกอยู่ที่อาวุธนิวเคลียร์มูลค่ามหาศาลว่าอาจเป็นเป้าหมายการลอบโจมตีจากภายนอก ทั้งนี้ มีรายงานว่าปากีสถานครอบครองอาวุธนิวเคลียร์เกินกว่า 100 ลูก

เรห์มาน มาลิก รัฐมนตรีมหาดไทย กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า “ผมวิงวอนไปยังองค์การนานาชาติ เราต้องการแรงสนับสนุน ดูสิ่งที่เรากำลังเผชิญในสงคราม ... เราไม่ได้เพียงต่อสู้เพื่อปากีสถาน แต่เราสู้เพื่อโลกทั้งใบ”
กำลังโหลดความคิดเห็น