เอเอฟพี - สหรัฐฯ กำลังระงับงบประมาณช่วยเหลือปากีสถานกว่า 800 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 24,000 ล้านบาท) คิดเป็นมูลค่าราว 1 ใน 3 ของงบประมาณช่วยเหลือด้านความมั่นคง 2,700 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 82,000 ล้านบาท) ที่สหรัฐฯ ทุ่มให้กับกรุงอิสลามาบัดในแต่ละปี หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบประธานาธิบดี บารัค โอบามา ให้การยืนยัน เมื่อวันอาทิตย์ (10) ที่ผ่านมา
ความสัมพันธ์ระหว่างชาติพันธมิตรทั้งสองเสื่อมสลายลง ตั้งแต่หน่วยคอมมานโดสหรัฐฯ บุกสังหาร อุซามะห์ บิน ลาดิน เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ถึงดินแดนปากีสถาน ซึ่งได้บ่มเพาะความแคลงใจระหว่างทั้งสองชาติ และเดือนที่ผ่านมา ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ ได้ประกาศเตือนไว้ว่า จะมีการชะลอความช่วยเหลือทางทหารที่เคยมีให้กับปากีสถาน หากกรุงอิสลามาบัดยังไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อช่วยเหลือสหรัฐฯ
วานนี้ วิลเลียม ดาลีย์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ของประธานาธิบดี โอบามา ยืนยันรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ ว่า รัฐบาลพญาอินทรีจะระงับการช่วยเหลือ พร้อมทั้งยกเลิกงบประมาณสนับสนุนทางทหารมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 24,000 ล้านบาท)
นิวยอร์กไทมส์ รายงานเมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ (9) ว่า งบประมาณที่ถูกระงับก้อนนี้ได้รวมถึงเงินกว่า 300 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 900 ล้านบาท) ที่สหรัฐฯ เตรียมชดเชยให้กับปากีสถาน ซึ่งส่งทหารเข้าประจำการตลอดแนวชายแดนอัฟกานิสถานมากกว่า 100,000 นาย และงบประมาณช่วยเหลือหลายร้อยล้านดอลลาร์ที่จะใช้ในการฝึกทหาร และยุทโธปกรณ์ที่เตรียมนำส่งปากีสถานก็ถูกระงับเช่นกัน
มาตรการนี้มีขึ้นท่ามกลางการอภิปรายกันภายในรัฐบาลโอบามา ซึ่งกำลังมองหาวิธีบังคับให้ปากีสถาน หนึ่งในพันธมิตรสำคัญในสงครามต่อต้านการก่อการร้าย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ขณะที่หน่วยข่าวกรองของปากีสถานตกเป็นเป้าโจมตีกรณีความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นกับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงต่างๆ
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า ยุทโธปกรณ์ เช่น ปืนไรเฟิล เสื้อเกราะ เครื่องกระสุน และอุปกรณ์ทำลายวัตถุระเบิด อยู่ในรายการที่ถูกระงับ นอกจากนี้ เครื่องมือจำพวกกล้องไนต์วิชัน วิทยุสื่อสาร และอะไหล่เฮลิคอปเตอร์ ก็ถูกระงับเช่นกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ปากีสถานได้ขับครูฝึกทหารชาวสหรัฐฯ จำนวนกว่า 100 นาย ออกจากประเทศ
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวผู้เผยข้อมูลกับนิวยอร์กไทมส์ ระบุว่า ข้อตกลงขายอาวุธ เช่น เครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ให้กับปากีสถาน และงบประมาณช่วยเหลือนอกเหนือจากการทหาร จะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการครั้งนี้
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตรสองชาตินี้ตึงเครียดยิ่งขึ้นช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เมื่อปากีสถานออกโรงโต้สหรัฐฯ หลังจาก พล.ร.อ.ไมค์ มุลเลน นายทหารอเมริกันชั้นผู้ใหญ่ แสดงความเห็นไว้ว่า กรุงอิสลามาบัดอาจอยู่เบื้องหลังการอุ้มฆ่า ไซเอด ซาลีม ชาห์ซาด นักข่าวผู้เขียนรายงานสืบสวน ตีแผ่ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มหัวรุนแรงกับกรมประมวลข่าวกรองกลางปากีสถาน