xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ทหารกบฏลิเบียวอน “สหรัฐฯ-อังกฤษ” สำนึกผิดที่ทรมานนักโทษใน “คุกลับ” ไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อับเดล-ฮาคิม เบลฮัจ ผู้บัญชาการกองกำลังกบฏประจำกรุงตริโปลี เคยถูกสหรัฐฯ และอังกฤษร่วมมือจับกุมในฐานะสมาชิกกลุ่มมุสลิมลิเบียหัวรุนแรง ซึ่งถูกทรมานร่างกายในเรือนจำลับที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2004 วันนี้ (5) เขาออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เอเอฟพี/บีบีซี - ผู้บัญชาการกองกำลังกบฏลิเบียประจำกรุงตริโปลี ประกาศวันนี้ (5) ว่า ต้องการคำขอโทษจากทางการสหรัฐฯ และอังกฤษ หลังจากเอกสารลับที่พบภายในสำนักงานหน่วยข่าวกรองของ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ระบุว่า ทั้งสองประเทศสมรู้ร่วมคิดกันกักขังหน่วงเหนี่ยวเขาในฐานะสมาชิกกลุ่มมุสลิมลิเบียหัวรุนแรง และส่งตัวเขามาทรมานร่างกายที่เรือนจำลับในกรุงเทพฯ เมื่อปี 2004

เอกสารที่พบในห้องทำงานของมูสซา คูสซา อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองลิเบีย ได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุมตัว อับเดล-ฮาคิม เบลฮัจ ในกรุงเทพฯ เมื่อปี 2004 ก่อนการส่งตัวมุสลิมหัวรุนแรงรายนี้ให้กับทางการลิเบีย ปัจจุบัน เบลฮัจ นั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการกองกำลังกบฏในกรุงตริโปลี หลังจากกลายเป็นกำลังหลักในการรบพุ่งกับระบอบเก่าของกัดดาฟี

เมื่อปี 2004 “ซีไอเอ” สหรัฐฯ สามารถจับกุมเบลฮัจได้ในมาเลเซีย และส่งตัวมายังประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่ซีไอเอได้ทรมานร่างกายเขาในเรือนจำลับที่กรุงเทพฯ หลังจากนั้น อับเดล-ฮาคิม เบลฮัจ ถูกส่งตัวไปยังลิเบีย และต้องโทษจำคุกภายในเรือนจำอาบู ซาลิม นาน 7 ปี ผู้บัญชาการกบฏรายนี้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ระหว่างการถูกจับกุม ก็เคยมีเจ้าหน้าที่จาก “เอ็มไอ 6” ของอังกฤษ เข้าสอบปากคำเช่นกัน

“สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมมันผิดกฎหมาย และสมควรได้รับคำขอโทษ” ผู้บัญชาการอับเดล-ฮาคิม เบลฮัจ ให้สัมภาษณ์กับบีบีซี นิวส์ พร้อมทั้งเปิดใจกับหนังสือพิมพ์การ์เดียน สื่อแถวหน้าของอังกฤษอีกแห่งหนึ่ง ว่า กำลังพิจารณาถึงการฟ้องร้องรัฐบาลอังกฤษและสหรัฐฯ

“ผมถูกฉีดอะไรบางอย่างเข้าร่างกาย ถูกมัดมือมัดเท้าแขวนอยู่กับกำแพง และถูกจับใส่ตู้ที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง” เบลฮัจเล่าถึงอดีตอันเจ็บปวด “พวกมันไม่ยอมให้ผมได้หลับ มีเสียงดังรบกวนอยู่ตลอดเวลา ผมถูกทรมานจนกลายเป็นเรื่องปกติ”

“ผมแปลกใจที่อังกฤษมีส่วนร่วมกับช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต”

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชการอับเดล-ฮาคิม เบลฮัจ ให้คำมั่นว่าเรื่องราวในอดีตจะไม่เป็นอุปสรรคต่อ “ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐลิเบียใหม่กับรัฐบาลอังกฤษและสหรัฐฯ”

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จาก “ฮิวแมนไรต์สวอตช์” องค์การเพื่อสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เป็นผู้ค้นพบข้อมูลลับเหล่านี้จากตู้เอกสารในห้องทำงานของผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองลิเบีย

ในบันทึกฉบับนี้ ซีไอเอ ได้แจ้งต่อทางการลิเบียเกี่ยวกับการส่งตัว “อับดุลเลาะห์ อัล-ซาดิก” พร้อมกับภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์จากกรุงกัมลาลัมเปอร์ เมืองหลวงมาเลเซีย ไปยังกรุงเทพฯ โดยเนื้อความในจดหมายระบุว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จะเป็นคนคุมตัวทั้งสองคน และจะส่งให้ถึงมือทางการลิเบีย

อับดุลเลาะห์ อัล-ซาดิก เป็นชื่อปลอมของอับเดล-ฮาคิม เบลฮัจ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มนักรบอิสลามลิเบีย (Libyan Islamic Fighting Group) ที่ระบอบมูอัมมาร์ กัดดาฟี ต้องการตัว ในช่วงเวลานั้น

จดหมายอีกฉบับที่ได้รับการเปิดโปงออกมา เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองอังกฤษระดับสูงได้แสดงความยินดีกับหัวหน้าหน่วยข่าวกรองลิเบียที่สามารถจับตัวอับเดล-ฮาคิม เบลฮัจ พร้อมทั้งระบุว่าข่าวกรองที่นำไปสู่การจับตัวมุสลิมลิเบียเบียหัวรุนแรงคนนี้เป็นผลงานของอังกฤษ
กำลังโหลดความคิดเห็น