เอเจนซี - คำแถลงต่อทางการสหรัฐฯ ของ วิคเตอร์ บูท ผู้ต้องหาคดีค้าอาวุธชาวรัสเซีย ที่มีขึ้นทันทีหลังถูกจับกุมในกรุงเทพฯ เมื่อปี 2008 ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานเอาผิดเขาในชั้นศาลได้ เนื่องจากผู้ต้องหาถูกข่มขู่ระหว่างการสอบปากคำ ศาลสหรัฐฯ ตัดสิน วานนี้ (24)
วิคเตอร์ บูท อดีตนักบินกองทัพอากาศสหภาพโซเวียต ถูกดำเนินคดีค้าอาวุธข้ามชาติด้วยข้อกล่าวหาหลายกระทง ซึ่งรวมทั้งข้อหาสมคบคิดสังหารชาวสหรัฐฯ และสมรู้ร่วมคิดส่งมอบความช่วยเหลือสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย หากศาลพิพากษาว่าเขากระทำผิดจริง บูท อาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 25 ปี
ทั้งนี้ คำวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นคำแถลงของ วิคเตอร์ บูท วานนี้ ผู้พิพากษา ชีรา ไชน์ดลิน มีความเห็นว่า คำแถลงของ บูท ต่อหน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ (Drug Enforcement Administration) ขณะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำไทย เป็นผลจากการข่มขู่ และไม่สามารถใช้ประกอบการพิจารณาคดี
“ดิฉันพบว่า ภายใต้สภาวการณ์เช่นนั้น คำแถลงของ บูท ต่อหน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ ไม่ได้เป็นไปด้วยความสมัครใจ” ผู้พิพากษา ไชน์ดลิน กล่าว “บูท ถูกจับตัวในต่างประเทศ (ไทย) โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธมากกว่า 15 นายคุมตัว มีการเปลื้องผ้าเพื่อตรวจอาวุธ และการตรวจค้นห้องพักโดยเขาไม่สมัครใจ ซึ่งรวมถึงการยึดคอมพิวเตอร์และเอกสารส่วนตัว”
เจ้าของฉายา “พ่อค้าความตาย” ผู้นี้ถูกส่งตัวให้ทางการสหรัฐฯ ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2010 เพื่อรับการพิจารณาคดีจากศาลสหรัฐฯ ในกรุงนิวยอร์ก เขาถูกจับกุมตัวได้ที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนมีนาคม 2008 จากแผนล่อซื้อของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งปลอมตัวเป็นผู้ซื้ออาวุธจากกองกำลังปฏิวัติติดอาวุธโคลอมเบีย (ฟาร์ก)
เอกสารที่ยื่นต่อศาล ยังระบุว่า วิคเตอร์ บูท ได้เสนอขาย มิสไซล์จากพื้นสู่อากาศชนิดพกพารุ่นใหม่ และปืนอาก้าประมาณ 5,000 กระบอก ให้กับสายลับสหรัฐฯ ซึ่งปลอมตัวเป็นกบฏโคลอมเบียกลุ่มดังกล่าว
ผู้พิพากษาไชน์ดลิน กล่าวว่า เมื่อถูกจับกุมตัว บูท ถูกตำรวจไทยปฏิเสธการขอพบทนาย และการหารือกับตัวแทนจากสถานทูตรัสเซีย ยิ่งไปกว่านั้น ต่อมาดูเหมือนว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้ข่มขู่เขาว่า หากไม่ต้องการเผชิญกับ “อากาศร้อน, ท้องหิว, ความเจ็บป่วย หรือ ถูกข่มขืน” อยู่ภายในเรือนจำไทย เขาต้องให้ความร่วมมือในการสอบปากคำ
ผลจากคำตัดสินวานนี้ เคนเนธ คาแพลน ทนายของวิคเตอร์ บูท เปิดเผยว่า พอใจกับความเห็นของผู้พิพากษา ชีรา ไชน์ดลิน แต่ยืนยันว่า วิคเตอร์ บูท ไม่ได้ให้การยอมรับผิดตามข้อกล่าวหาใดๆ ในคำแถลงระหว่างการสอบปากคำ
ส่วน โฆษกหญิงของอัยการเขตแมนฮัตตัน กล่าวว่า “ด้วยความเคารพ เราไม่เห็นด้วยกับความเห็นของผู้พิพากษา และจะร้องขอให้มีการพิจารณาใหม่อีกครั้ง”