เอเอฟพี - มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำจอมทระนง มีแผนฆ่าตัวตายด้วยการระเบิดกรุงตริโปลี เมืองหลวงลิเบีย หากนครแห่งนี้ถูกกองกำลังกบฏเข้ายึดครอง ทูตพิเศษรัสเซียรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อิซเวสเตีย วันนี้ (14)
“นายกรัฐมนตรีลิเบีย บอกกับผมว่า ถ้าพวกกบฏเข้ายึดเมืองหลวงได้ ‘เราจะถล่มด้วยมิสไซล์และระเบิดเมืองทิ้ง’” มีฮาอิล มาร์เกลอฟ นักการทูตรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์รายวันอิซเวสเตียของแดนหมีขาว
มาร์เกลอฟ ได้พบกับนายกรัฐมนตรี บักดาดี อาลี อัล-มาห์มูดี แห่งลิเบีย เมื่อเดือนที่ผ่านมา
“ผมจินตนาการได้เลยว่ารัฐบาลของกัดดาฟีได้เตรียมแผนฆ่าตัวตายไว้แล้ว” เขากล่าว โดยย้ำว่า กัดดาฟียังคงมีขีปนาวุธและเครื่องกระสุนใช้อย่างเหลือเฟือ แต่มาร์เกลอฟแปลกใจกับรายงานหลายชิ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งระบุว่า อาวุธของกัดดาฟีในคลังแสงกำลังใกล้จะหมดเต็มที
“ตามทฤษฎี กรุงตริโปลีอาจขาดแคลนกระสุนปืนใหญ่ ไม่เหลือกระสุนปืนไรเฟิล แต่พันเอกกัดดาฟียังมีมิสไซล์และระเบิดจำนวนมาก”
มีฮาอิล มาร์เกลอฟ ได้พบกับนายกรัฐมนตรี อัล-มาห์มูดี เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ณ กรุงตริโปลี หลังจากเดินทางไปยังเมืองเบงกาซี ฐานที่มั่นของกองกำลังกบฏลิเบีย อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พบกับกัดดาฟีโดยตรง
ทั้งนี้ รัสเซียเป็นหนึ่งในชาติที่งดออกเสียงในการลงมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เมื่อเดือนมีนาคม เพื่อเปิดทางให้กองกำลังนานาชาติเข้าแทรกแซงลิเบีย ตั้งแต่ตั้นมารัสเซียก็วิพากษ์วิจารณ์นานาชาติที่ก่อเหตุโจมตีลิเบีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ฝรั่งเศสทิ้งอาวุธให้กับกลุ่มกบฏ
เซียร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้หารือร่วมกับ ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (13) เกี่ยวกับลิเบีย ซึ่งลาฟรอฟพยายามปรับลดความเห็นที่แตกต่างระหว่างทั้งสองประเทศลงมา
อย่างไรก็ตาม กระทรวงต่างประเทศรัสเซีย เคยแถลงก่อนหน้านี้ ว่า กรุงมอสโกจะไม่เข้าร่วมการประชุมนานาชาติว่าด้วยเรื่องลิเบียในตุรกีช่วงปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งรัสเซียกันตนเองไว้คนกลางของความขัดแย้งครั้งนี้