เอเอฟพี - ชาติยุโรปและสหรัฐฯ เร่งเร้าให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รับร่างมติลงทัณฑ์ผู้นำซีเรียและคณะรวม 23 ราย วันนี้ (24) กรณีการใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชน พร้อมทั้งยืนยันว่า จะไม่มีการแทรกแซงทางทหาร
ร่างมติฉบับนี้ได้รับการเสนอต่อสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคง 15 ชาติ วานนี้ (23) โดยอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และโปรตุเกส รวมทั้งแนะให้ออกคำสั่งห้ามขนถ่ายอาวุธทุกประเภทเข้าซีเรีย
ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย เป็นหนึ่งในคณะบุคคล 23 ราย และองค์กรอีก 4 แห่ง ที่จะถูกอายัดทรัพย์ หากที่ประชุมมีมติรับร่างดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ชื่อของผู้นำซีเรียไม่ได้อยู่ในกลุ่มบุคคลที่ถูกห้ามเดินทาง
มาเฮร์ อัล-อัสซาด น้องชายของผู้นำซีเรีย มีชื่ออยู่ในโผแบล็กลิสต์ฉบับนี้เช่นกัน เขาเป็นผู้บัญชาการกองทหารปืนใหญ่ที่ 4 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสังหารประชาชน รวมทั้ง รอมี มาคลูฟ ลูกพี่ลูกน้องของอัสซาด ซึ่งคุม “ซีเรียเทล” บริษัทโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดในซีเรีย
รองประธานาธิบดี, รัฐมนตรีกลาโหม, คณะผู้บริหารรัฐบาล และหัวหน้าหน่วยข่าวกรองซีเรีย ต่างก็อยู่ในรายชื่อเหล่านี้ นอกจากนี้ สำนักข่าวกรองซีเรีย และบริษัทอีก 3 แห่ง มีรายชื่อในฐานะองค์กรที่จะถูกอายัดทรัพย์สิน เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีส่วนสนับสนุนระบอบอัสซาด
ทั้งนี้ ขณะที่ชาติตะวันตกกำลังเฝ้าหวังให้ที่ประชุมรับร่างมติโดยเร็ว รัสเซีย และจีน ได้ออกมาคัดค้านการลงโทษผู้นำซีเรีย โดยชาติมหาอำนาจทั้งสองมีอำนาจยับยั้งมติ หรือ “วีโต้” ในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคง ส่วน บราซิล, อินเดีย และแอฟริกาใต้ อาจงดออกเสียงในกรณีนี้
เนื้อความในร่างมติของคณะมนตรีความมั่นคงฉบับนี้เรียกร้องให้ซีเรียยุติการใช้ความรุนแรง “ทันที” พร้อมทั้งระบุว่า จะไม่มีการแทรกแซงทางการทหาร ประเด็นนี้ ซูซาน ไรซ์ ทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น ให้สัมภาษณ์กับสถานีข่าวซีเอ็นเอ็นว่า “ประชาชนซีเรียแสดงความประสงค์ชัดแจ้งว่า ไม่ต้องการให้ต่างชาติส่งทหารเข้าแทรกแซง”
อนึ่ง ตั้งแต่รัฐบาลซีเรียปราบปรามประชาชนจนมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2,200 ราย คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพิ่งแถลงประณามความรุนแรงไป เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม เนื่องจากถูกคัดค้านจากจีน รัสเซีย และกลุ่มพันธมิตรของทั้งสองชาติในคณะมนตรี มาโดยตลอด กลุ่มที่คัดค้านมติดังกล่าวกำลังกังวลว่า การคุกคามใดๆ ต่อซีเรีย จะกลายเป็นการปูทางให้ชาติตะวันตกเข้ารุกราน เหมือนเหตุการณ์ที่กำลังเกิดในลิเบีย
มติของคณะมนตรีความมั่นคงจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 9 เสียง ที่สำคัญต้องไม่มีเสียงวีโต้ ประเทศที่มีสิทธิ์วีโต้ได้แก่สมาชิกถาวร ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐฯ ฝรั่งเศส อังกฤษ และ รัสเซีย-จีน