เอเอฟพี/บีบีซี - กลุ่มวัยรุ่นยังก่อความไม่สงบปล้นสะดมร้านค้าและเผารถยนต์ใจกลางกรุงลอนดอนอีกเมื่อค่ำวันอังคาร(9) ขณะที่เหตุจลาจลครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษของอังกฤษล่วงเลยเข้าสู่คืนที่ 4 แล้ว แม้นายกรัฐมนตรีเพิ่งสั่งเพิ่มกำลังตำรวจและประกาศใช้มาตรการปราบปรามขั้นเด็ดขาดก็ตาม
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่าแก๊งวัยรุ่นราว 200 คนขว้างปาก้อนหินและข้าวของเข้าใส่ตำรวจในชุดปราบจลาจล จุดไฟเผารถยนต์และทุบทำลายร้านค้าต่างๆในเวสต์บรอมวิช ใกล้เบอร์มิงแฮม เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของอังกฤษ ขณะที่ภาพข่าวสถานีโทรทัศน์เผยให้เห็นกลุ่มก่อความวุ่นวายเรียงแถวอยู่หลังเครื่องกีดขวางระหว่างเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่
ยังมีรายงานความรุนแรงปะทุขึ้นที่เมืองวูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งอยู่ติดกัน โดยพื้นที่นี้กลุ่มวัยรุ่นพากันทุบทำลายและบุกเข้าไปปล้นสะดมร้านค้าต่างๆ ขณะที่ในซัลฟอร์ด เมืองแมนเชสเตอร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ แก๊งป่วนเมืองราว 20 คนใช้อิฐโจมตีรถตำรวจคันหนึ่งก่อนหลบหนีไป
โฆษกตำรวจเกรทเตอร์ แมนเชสเตอร์ บอกว่าเจ้าหน้าที่ถูกเล่นงานหน้าศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในซัลฟอร์ด ตอนประมาณ 17.00 น.(ตรงกับเมืองไทย 23.00 น.) "มีการขว้างปาอิฐเข้าใส่รถตำรวจ แต่จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นราว 20 คนก็หลบหนีไปหลังถูกเจ้าหน้าที่หลายสิบนายเข้าสลาย"
หลายต่อหลายครั้งกลุ่มผู้ก่อจลาจลมีเป้าหมายเล่นงานตำรวจและมีเจ้าหน้าที่ 111 นายแล้วที่ได้รับบาดเจ็บนับตั้งแต่ความวุ่นวายปะทุขึ้นในลอนดอนเมื่อวันเสาร์(6)ก่อนลุกลามส่วนพื้นที่อื่นๆของประเทศ
"ในวูล์ฟแฮมป์ตัน ร้านค้าบางแห่งถูกบุกรุก ในเวสต์บรอมวิช เวลานี้ยังมีเหตุวุ่นวายบางส่วนและรถยนต์ 2 คันถูกจุดไฟเผา" ถ้อยแถลงของตำรวจเวสต์ มิดแลนด์ส ระบุ "เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ ณ สถานที่เกิดเหตุกำลังเข้าจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น" อย่างไรก็ตามโฆษกตำรวจปฏิเสธเปิดเผยว่ามีคนจำนวนเท่าใดที่เกี่ยวข้องกับความโกลาหลครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ตำรวจเวสต์ มิดแลนด์ส จับกุมผู้ก่อความไม่สงบในเมืองเบอร์มิงแฮม ไปแล้วมากกว่า 130 รายตามหลังเหตุจลาจลเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์(8) หลังจากกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุทุบทำลายและปล้นร้านค้าย่านใจกลางเมืองและจุดไฟเผาสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง
เหตุจลาจลครั้งล่าสุดมีขึ้นขณะที่ตำรวจนับหมื่นคนเตรียมกระจายกำลังไปตามถนนสายต่างๆของลอนดอนในช่วงค่ำวันอังคาร(9) เพื่อจัดการพวกป่วนเมืองและหัวขโมยที่ก่อความวุ่นวายในเมืองหลวงของอังกฤษในช่วง 3 วันที่ผ่านมา หลังจากนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ประกาศว่าจะใช้มาตรการปราบปรามอย่างเด็ดขาด เพื่อสยบกระแสการก่อจลาจลเหล่านี้
การจลาจลเริ่มต้นขึ้นในคืนวันเสาร์(6) ในย่านท็อตแนม ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของคนหลายเชื้อชาติตั้งอยู่ทางด้านเหนือของลอนดอน ภายหลังจากเกิดการชุมนุมประท้วงการเสียชีวิตของชายชาวท้องถิ่นวัย 29 ปีผู้หนึ่งที่มีชื่อว่า มาร์ก ดักแกน เขาถูกตำรวจยิงเมื่อ 2 วันก่อนหน้านั้น
ดักแกนซึ่งมีบุตร 4 คน ถูกยิงหลังจากรถแท๊กซี่ที่เขานั่งมาถูกตำรวจสั่งหยุดในระหว่างการปฏิบัติการต่อต้านการก่ออาชญากรรมโดยใช้อาวุธปืนในชุมชนชาวผิวดำแถวนั้น
จากคืนแรกที่เกิดความรุนแรงที่ย่านท็อตแนม พอคืนวันอาทิตย์(7)ก็เกิดการเลียนแบบก่อจลาจลขึ้นตามย่านอื่นๆ ที่มีความไม่สงบคุกรุ่นอยู่แล้วของลอนดอน แล้วถึงคืนวันจันทร์(8) มันก็ลุกลามไปทั่วทั้งเมืองหลวงอังกฤษ ตั้งแต่ย่านคนรวยอย่าง นอตติ้งฮิลล์ และ แคลปแพม, ย่านเขตเมืองชั้นในอย่าง เพคแคม และ แฮกนีย์ ตลอดจนย่านชานเมืองอย่าง ครอยดอน และ อิลลิ่ง
นอกจากนั้น ในคืนวันจันทร์การจลาจลยังลุกลามไปยังเมืองลิเวอร์พูล ซึ่งมีผู้ก่อเหตุหลายร้อยคนอาละวาดตามถนนสายต่างๆ หลายชั่วโมง จัดการเผารถและถังขยะขณะที่ตำรวจในเมืองบริสตอล แจ้งว่า ได้เข้าปราบปรามควบคุมฝูงชนที่เป็นเยาวชนราว 150 คน