เอเอฟพี - สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) บริษัทเครดิตเรตติ้งยักษ์ใหญ่ระดับโลก ลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ลงจากระดับ AAA เหลือ AA+ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยชี้ว่าบรรดานักการเมืองของอเมริกันนั้นไม่สามารถที่จะรับมือกับการขาดดุลงบประมาณครั้งใหญ่ และภาระหนี้สินท่วมท้นได้
เอสแอนด์พียังปรับแนวโน้มความน่าเชื่อถือในอนาคต (outlook) ของสหรัฐฯ เป็น "ลบ" พร้อมกับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือล่าสุดนี้ด้วย ขณะที่แหล่งข่าวรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีส่วนในการเจรจากับบริษัทเครดิตเรตติ้งแห่งนี้โจมตีว่าการวิเคราะห์ของเอสแอนด์พีว่าบกพร่องอย่างยิ่ง
แถลงการณ์ของเอสแอนด์พีระบุว่า การลดอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวสะท้อนความเห็นของทางบริษัทที่ว่า แผนการปรับภาวะการคลังให้เข้าสู่สมดุล ที่สภาคองเกรส และรัฐบาลเพิ่งเห็นพ้องต้องกันเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งตามความเห็นของเอสแอนด์พี แผนนั้นจำเป็นจะต้องสร้างเสถียรภาพให้กับพลวัตหนี้ของรัฐบาลในระยะกลาง
นอกจากนี้ เอสแอนด์พียังชี้ว่า การลดเครดิตครั้งนี้ยังสะท้อนความเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพ เสถียรภาพ และการคาดการณ์ได้ในการดำเนินนโยบาย และสะท้อนสถาบันทางการเมืองของอเมริกัน ว่ามีความอ่อนแอในช่วงเวลาที่เผชิญกับความท้าทายทางการเงิน และเศรษฐกิจ มากกว่าเมื่อครั้งที่เอสแอนด์พีมองแนวโน้มอนาคตของสหรัฐฯ เป็นลบในวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา
เอสแอนด์พียังเสริมว่า แนวโน้มความน่าเชื่อถือที่เป็นลบยังชี้ถึงโอกาสที่สหรัฐฯ อาจถูกลดเครดิตเรตติ้งลงมาสู่ระดับ AA ภายใน 2 ปี หากรัฐบาลยังไม่สามารถตัดลดค่าใช้จ่ายได้มากเท่ากับที่ให้สัญญาไว้ในปัจจุบัน หรือหากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และแรงกดดันทางการเงินครั้งใหม่ทำให้ภาพรวมทางการเงินของประเทศดูแย่ลง
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ ถูกลดอันดับความน่าเชื่อลง นับตั้งแต่ได้รับเรตติ้ง AAA จากมูดีส์ในปี 1917 และจากเอสแอนด์พีมาตั้งแต่ปี 1941
ขณะที่ โฆษกกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ออกมาโต้แย้งว่า การวิเคราะห์ข้อมูลของเอสแอนด์พีนั้นมีตัวเลขคลาดเคลื่อนไป 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยใช้เส้นฐานที่ไม่ถูกต้อง และแผนการใช้จ่าย และโครงการหนี้ที่ผิดพลาดด้วย
อย่างไรก็ตาม จอห์น แชมเบอร์ส ประธานคณะกรรมการจัดอันดับของเอสแอนด์พียังคงยืนกรานคำตัดสินของทางบริษัท โดยชี้ว่าสหรัฐฯ จำเป็นต้องควบคุมสถานะงบประมาณในระยะกลาง และระยะยาวให้ได้ ซึ่งเป็นปัญหามานานไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดนี้ หรือชุดก่อนหน้า
เขาชี้ว่า การต่อสู้ของพรรคเดโมแครต และรีพับลิกันในการหาข้อตกลงขยายเพดานหนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งใช้เวลานานหลานเดือนกว่าจะสามารถตกลงกันได้ และมีผลบังคับใช้ในวันอังคาร (2) ที่ผ่านมา ได้สั่นคลอนเศรษฐกิจทั่วโลก
การลดความน่าเชื่อถือตราสารหนี้สหรัฐฯ ถือเป็นความอับอายเชิงสัญลักษณ์สำหรับประธานาธิบดีบารัค โอบามา รัฐบาลของเขา และทั้งประเทศ โดยหลายฝ่ายกังวลว่าอาจส่งผลให้เกิดหายนะในตลาดการเงินโลก ซึ่งเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีความสำคัญที่สุดอย่างคาดไม่ถึง ทว่า นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่าไม่น่าส่งผลกระทบมากนัก