ครม.ไซปรัสลาออกยกชุด หลังถูกกดดันกรณีคลังแสงฐานทัพเรือระเบิด

เอเอฟพี - คณะรัฐมนตรีไซปรัส ตัดสินใจยื่นซองลาออกทั้งคณะ วันนี้ (28) หลังจากถูกกดดันอย่างหนัก จากกรณีคลังแสงภายในฐานทัพเรือระเบิด เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 13 ราย และสร้างความเสียหายให้กับโรงไฟฟ้าหลักของประเทศ

ประธานาธิบดี เดมิทริส คริสโตฟีอัส แห่งไซปรัส เป็นผู้ขอให้รัฐมนตรีทั้ง 11 คน ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรอรับการปรับคณะรัฐมนตรี สเตฟานอส สเตฟานู โฆษกรัฐบาลกรุงนิโคเซีย แถลงต่อผู้สื่อข่าว

“ท่านประธานาธิบดีได้แจ้งความประสงค์ต่อบรรดารัฐมนตรี ถึงความตั้งใจในการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ ด้วยเหตุนี้จึงขอให้รัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง” โฆษกสเตฟานู กล่าว

อย่างไรก็ตาม คระรัฐมนตรีชุดนี้จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกระทั่งมีการแต่งตั้งรัฐบาลชุดใหม่

การลาออกของคณะรัฐมนตรีไซปรัส มีขึ้นหลังจาก “มูดีส์” บริษัทเครดิตเรตติ้ง ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือต่อพันธบัตรรัฐบาลไซปรัส สืบเนื่องจากความเสียทางเศรษฐกิจจากเหตุระเบิดฐานทัพเรือ และบรรยากาศทางการเมืองภายในที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

ประธานาธิบดี เดมิทริส คริสโตฟีอัส และรัฐบาล ถูกกล่าวตั้งคำถามถึงการป้องกันเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ซึ่งได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและธุรกิจบริเวณใกล้เคียงมูลค่าหลายล้านยูโร พร้อมทั้งกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ

ทั้งนี้ สื่อมวลชนได้เปิดโปงข้อมูลที่รั่วไหลออกมาว่า ทางการรู้อยู่เต็มอกว่าตู้คอนเทนเนอร์บรรจุอาวุธ 98 ตู้ที่วางเรียงรายตากแดดตากลมอยู่ภายในฐานทัพเรืออีแวนเจลอส ฟลอรากิส อาจเกิดระเบิดขึ้นเมื่อไรก็ได้

ผู้เสียชีวิตทั้ง 13 ราย ประกอบไปด้วย ผู้บัญชาการกองทัพเรือ, เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 6 นาย และนายทหารอีก 6 นาย

นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าวาสซิลิโก ซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้าให้ผู้คนมากกว่าครึ่งประเทศ ยังได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย

นับตั้งแต่เกิดเหตุระเบิด ประชาชนหลายพันคนมักนัดชุมนุมกันหน้าทำเนียบประธานาธิบดียามค่ำคืน เพื่อเรียกร้องให้เดมิทริส คริสโตฟีอัส ลาออกแสดงความรับผิดชอบ

ตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 98 ตู้ ตั้งอยู่ในฐานทัพเรืออีแวนเจลอส ฟลอรากิส มาตั้งแต่ปี 2009 หลังจากกองทัพไซปรัสเข้าจับกุมเรือขนส่งสินค้าที่กำลังมุ่งหน้าไปยังซีเรียและอิหร่าน