รอยเตอร์ – กรีซกลายเป็นประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำที่สุดในโลกไปแล้ว ตามความเห็นของ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) โดยบริษัทเครดิตเรตติ้งยักษ์ใหญ่ระดับโลกรายนี้ เมื่อวันจันทร์(13) ได้ลดเกรดตราสารหนี้ของชาติสมาชิกยูโรโซนรายนี้มาอยู่ที่ระดับ “CCC” พร้อมกับเตือนว่าความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะปรับโครงสร้างหนี้สินของประเทศนี้ จะถูกถือว่าเป็นการหยุดพักชำระหนี้
เวลานี้ กรีซ จึงมีอันดับเครดิตเรตติ้งต่ำกว่าพวกประเทศอย่างเช่น ปากีสถาน และ เอกวาดอร์ ซึ่งได้ถูกมองเมินจนไม่สามารถเข้าไประดมเงินในตลาดระหว่างประเทศได้ ภายหลังที่ชาติเหล่านี้มีการหยุดพักชำระหนี้ในปี 2009 เป็นต้นมา นอกจากนั้นหลังการประกาศของเอสแอนด์พี ได้ทำให้ตราสารค้ำประกันตราสารหนี้ของกรีซ มีราคาสูงขึ้นจนเกือบเป็น 2 เท่าตัวของราคาตราสารค้ำประกันพันธบัตรปากีสถานทีเดียว
ความเคลื่อนไหวของเอสแอนด์พีคราวนี้ถือเป็นการกระหน่ำตีระลอกล่าสุดต่อรัฐบาลพรรคสังคมนิยมของกรีซ ซึ่งกำลังดิ้นรนหาทางผลักดันแพกเกจมาตรการเศรษฐกิจอันเข้มงวดกวดขันที่ไม่เป็นที่ต้อนรับของประชาชน ให้สามารถผ่านรัฐสภาออกมาบังคับใช้ เพื่อที่จะได้รับเงินกู้งวดต่อๆ ไปตามแผนการเงินกู้ช่วยไม่ให้ล้มละลายระยะเวลา 1 ปีที่กรีซทำไว้กับสหภาพยุโรป(อียู)และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)
เพียงแค่ 1 ปีหลังจากที่กรุงเอเธนส์ได้รับแพกเกจเงินกู้ช่วยเหลือก้อนแรกที่มีมูลค่าทั้งก้อนรวม 111,000 ล้านยูโร (158,000 ล้านดอลลาร์) ดังกล่าว ปรากฏว่าเวลานี้อียู, ไอเอ็มเอฟ, และธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ก็กำลังจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงระดมเงินเพื่อปล่อยเงินกู้ช่วยชีวิตแก่กรีซอีกเป็นก้อนที่สอง ถึงแม้ยังมีชาติยุโรปบางราย เป็นต้นว่า เยอรมนี ยังคงคัดค้านการปล่อยเงินให้แก่กรีซเพิ่มเติม ถ้าหากไม่มีเงื่อนไขพ่วงอย่างเช่นพวกเจ้าหนี้ภาคเอกชนก็ต้องยอมร่วมให้ความช่วยเหลือแก่กรีซด้วย
คำแถลงของเอสแอนด์พีที่อธิบายเหตุผลการลดเกรดความน่าเชื่อถือของกรีซระบุว่า พวกผู้วางนโยบายของยุโรปดูมีท่าทีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่จะผลักดันให้มีการปรับโครงสร้างหนี้สินของกรีซ –ไม่ว่าจะด้วยวิธีสว็อป (แลกเปลี่ยน) พันธบัตร หรือด้วยวิธียืดระยะเวลาไถ่ถอนพันธบัตรที่ออกมาแล้วก็ตามที –โดยถือว่าวิธีเหล่านี้เป็นเครื่องมือที่จะทำให้พวกเอกชนที่กำลังถือครองพันธบัตรของกรีซอยู่ ต้องร่วมแบกรับภาระในการช่วยเหลือกรีซรอบที่สองนี้
อย่างไรก็ตาม “ในความเห็นของเรา ธุรกรรมในลักษณะดังกล่าวนี้ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใด ก็น่าที่จะวางอยู่บนเงื่อนไขที่ย่ำแย่กว่าการรีไฟแนนซ์หนี้สินเหล่านี้ โดยที่เรามีทัศนะว่า การกระทำเช่นนี้คือการหยุดพักชำระหนี้ในทางพฤตินัย ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากหลักเกณฑ์ของทางสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์เอง ที่มีการตีพิมพ์เผยแพร่อยู่แล้ว” คำแถลงของบริษัทเครดิตเรตติ้งยักษ์รายนี้บอก
เอสแอนด์พีแจกแจงต่อไปว่า ถ้าหากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นมาจริงๆ ทางบริษัทก็จะลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงมาอยู่ที่ “การหยุดพักชำระหนี้แบบมีการเลือกตั้ง” (selective default) หรือใช้อักษรย่อว่า SD ขณะที่เรตติ้งของพวกตราสารหนี้ของกรีซจะถูกหั่นลงมาอยู่ที่ “D”
สำหรับการลดเกรดความน่าเชื่อถือของกรีซในวันจันทร์นั้น เอสแอนด์พีได้ลดเรตติ้งตราสารหนี้ภาครัฐระยะยาวของกรีซลงจากระดับ “B” มาเป็น “CCC” ซึ่งอยู่ห่างจากระดับหยุดพักชำระหนี้เพียง 4 ขั้น ขณะที่เรตติ้งตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นของกรีซนั้นอยู่ที่ระดับ “C”
ความเคลื่อนไหวของเอสแอนด์พีคราวนี้ ทำให้อันดับความน่าเชื่อถือของกรีซในสายตาเอสแอนด์พี อยู่ต่ำกว่า 1 ขั้นจากที่ มูดีส์ บริษัทเครดิตเรตติ้งยักษ์ใหญ่อีกเจ้าหนึ่งให้ไว้ที่ Caa1 ขณะที่ ฟิตช์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายยักษ์ลำดับสาม จัดอันดับให้กรีซอยู่ที่ B+
ทั้งนี้อันดับ “CCC” ที่เอสแอนด์พีให้แก่กรีซ ทำให้ประเทศนี้กลายเป็นชาติมีความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับต่ำที่สุดของโลก
เวลานี้ กรีซ จึงมีอันดับเครดิตเรตติ้งต่ำกว่าพวกประเทศอย่างเช่น ปากีสถาน และ เอกวาดอร์ ซึ่งได้ถูกมองเมินจนไม่สามารถเข้าไประดมเงินในตลาดระหว่างประเทศได้ ภายหลังที่ชาติเหล่านี้มีการหยุดพักชำระหนี้ในปี 2009 เป็นต้นมา นอกจากนั้นหลังการประกาศของเอสแอนด์พี ได้ทำให้ตราสารค้ำประกันตราสารหนี้ของกรีซ มีราคาสูงขึ้นจนเกือบเป็น 2 เท่าตัวของราคาตราสารค้ำประกันพันธบัตรปากีสถานทีเดียว
ความเคลื่อนไหวของเอสแอนด์พีคราวนี้ถือเป็นการกระหน่ำตีระลอกล่าสุดต่อรัฐบาลพรรคสังคมนิยมของกรีซ ซึ่งกำลังดิ้นรนหาทางผลักดันแพกเกจมาตรการเศรษฐกิจอันเข้มงวดกวดขันที่ไม่เป็นที่ต้อนรับของประชาชน ให้สามารถผ่านรัฐสภาออกมาบังคับใช้ เพื่อที่จะได้รับเงินกู้งวดต่อๆ ไปตามแผนการเงินกู้ช่วยไม่ให้ล้มละลายระยะเวลา 1 ปีที่กรีซทำไว้กับสหภาพยุโรป(อียู)และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)
เพียงแค่ 1 ปีหลังจากที่กรุงเอเธนส์ได้รับแพกเกจเงินกู้ช่วยเหลือก้อนแรกที่มีมูลค่าทั้งก้อนรวม 111,000 ล้านยูโร (158,000 ล้านดอลลาร์) ดังกล่าว ปรากฏว่าเวลานี้อียู, ไอเอ็มเอฟ, และธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ก็กำลังจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงระดมเงินเพื่อปล่อยเงินกู้ช่วยชีวิตแก่กรีซอีกเป็นก้อนที่สอง ถึงแม้ยังมีชาติยุโรปบางราย เป็นต้นว่า เยอรมนี ยังคงคัดค้านการปล่อยเงินให้แก่กรีซเพิ่มเติม ถ้าหากไม่มีเงื่อนไขพ่วงอย่างเช่นพวกเจ้าหนี้ภาคเอกชนก็ต้องยอมร่วมให้ความช่วยเหลือแก่กรีซด้วย
คำแถลงของเอสแอนด์พีที่อธิบายเหตุผลการลดเกรดความน่าเชื่อถือของกรีซระบุว่า พวกผู้วางนโยบายของยุโรปดูมีท่าทีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่จะผลักดันให้มีการปรับโครงสร้างหนี้สินของกรีซ –ไม่ว่าจะด้วยวิธีสว็อป (แลกเปลี่ยน) พันธบัตร หรือด้วยวิธียืดระยะเวลาไถ่ถอนพันธบัตรที่ออกมาแล้วก็ตามที –โดยถือว่าวิธีเหล่านี้เป็นเครื่องมือที่จะทำให้พวกเอกชนที่กำลังถือครองพันธบัตรของกรีซอยู่ ต้องร่วมแบกรับภาระในการช่วยเหลือกรีซรอบที่สองนี้
อย่างไรก็ตาม “ในความเห็นของเรา ธุรกรรมในลักษณะดังกล่าวนี้ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใด ก็น่าที่จะวางอยู่บนเงื่อนไขที่ย่ำแย่กว่าการรีไฟแนนซ์หนี้สินเหล่านี้ โดยที่เรามีทัศนะว่า การกระทำเช่นนี้คือการหยุดพักชำระหนี้ในทางพฤตินัย ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากหลักเกณฑ์ของทางสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์เอง ที่มีการตีพิมพ์เผยแพร่อยู่แล้ว” คำแถลงของบริษัทเครดิตเรตติ้งยักษ์รายนี้บอก
เอสแอนด์พีแจกแจงต่อไปว่า ถ้าหากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นมาจริงๆ ทางบริษัทก็จะลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงมาอยู่ที่ “การหยุดพักชำระหนี้แบบมีการเลือกตั้ง” (selective default) หรือใช้อักษรย่อว่า SD ขณะที่เรตติ้งของพวกตราสารหนี้ของกรีซจะถูกหั่นลงมาอยู่ที่ “D”
สำหรับการลดเกรดความน่าเชื่อถือของกรีซในวันจันทร์นั้น เอสแอนด์พีได้ลดเรตติ้งตราสารหนี้ภาครัฐระยะยาวของกรีซลงจากระดับ “B” มาเป็น “CCC” ซึ่งอยู่ห่างจากระดับหยุดพักชำระหนี้เพียง 4 ขั้น ขณะที่เรตติ้งตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นของกรีซนั้นอยู่ที่ระดับ “C”
ความเคลื่อนไหวของเอสแอนด์พีคราวนี้ ทำให้อันดับความน่าเชื่อถือของกรีซในสายตาเอสแอนด์พี อยู่ต่ำกว่า 1 ขั้นจากที่ มูดีส์ บริษัทเครดิตเรตติ้งยักษ์ใหญ่อีกเจ้าหนึ่งให้ไว้ที่ Caa1 ขณะที่ ฟิตช์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายยักษ์ลำดับสาม จัดอันดับให้กรีซอยู่ที่ B+
ทั้งนี้อันดับ “CCC” ที่เอสแอนด์พีให้แก่กรีซ ทำให้ประเทศนี้กลายเป็นชาติมีความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับต่ำที่สุดของโลก
