xs
xsm
sm
md
lg

ADB ชี้ “ศตวรรษเอเชีย” เป็นจริงได้ แก้ปัญหาใหญ่อีก 40 ปี “รวย” เท่ายุโรป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - รายงานการศึกษาฉบับใหม่ที่เพิ่งนำออกเผยแพร่วันอังคาร(2) ของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ระบุ ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาซึ่งเอเชียเดินหน้าไปสู่ความมั่งคั่งรุ่งเรืองนั้น มี 7 ประเทศเป็นผู้นำได้แก่ จีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, และไทย ทั้งนี้รายงานบอกด้วยว่าเอเชียสามารถที่จะร่ำรวยพอๆ กับยุโรปภายในกลางคริสต์ศตวรรษนี้ได้ ถ้าหากดำเนินการรับมือกับปัญหาหลักๆ ทั้งหลาย ตั้งแต่ความไม่เสมอภาคเท่าเทียมของประชาชน, การทุจริตคอร์รัปชั่น, และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

รายงานการศึกษาที่ใช้ชื่อว่า “เอเชียปี 2050: ทำให้ศตวรรษแห่งเอเชียกลายเป็นความจริงขึ้นมา” (Asia 2050: Realizing the Asian Century) ฉบับนี้บอกว่า พิจารณาจากแนวโน้มต่างๆ ในปัจจุบันแล้ว เอเชียจะกลายเป็นผู้สร้างผลผลิตทางเศรษฐกิจประมาณครึ่งหนึ่งของโลกได้ภายในปี 2050 และผู้คนอีก 3,000 ล้านคนก็จะขยับขึ้นอยู่ในฐานะของผู้มีอันจะกิน รายได้ของพวกเขาจะทัดเทียมกับของชาวยุโรปในทุกวันนี้

ทว่ารายงานของเอดีบีก็ชี้ให้เห็นถึงสภาพการณ์อันขัดแย้งกันที่ปรากฏอยู่ในเอเชีย นั่นก็คือ แม้มีข้อเท็จจริงอยู่ว่าภูมิภาคนี้มีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็วที่สุดในโลก และได้รับฉายาว่า “โรงงานเอเชีย” แต่ที่นี่ก็ยังเป็นบ้านเกิดของผู้คนที่ฐานะยากจนอย่างที่สุดซึ่งมีรายได้ไม่ถึงวันละ 1.25 ดอลลาร์ อยู่เกือบจะครึ่งหนึ่งของโลกทีเดียว

ในระยะหลายสิบปีที่ผ่านมาซึ่งเอเชียเดินหน้าไปสู่ความมั่งคั่งรุ่งเรืองนั้น รายงานการศึกษานี้บอกว่า มี 7 ประเทศเป็นผู้นำ ซึ่งชาติเหล่านี้รวมกันแล้วมีประชากรมากกว่า 3,000 ล้านคน ได้แก่ จีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไทย, และมาเลเซีย

การศึกษาพบว่าในเงื่อนไขของการสมมุติสถานการณ์ที่เป็นไปในทางบวกที่สุด เอเชีย (ที่นอกจาก 7 ประเทศนี้แล้วยังรวมถึงบรรดาชาติที่ยากจนกว่าเป็นต้นว่า ลาว และปากีสถาน) จะมีผลผลิตรวมกันพุ่งทะยานขึ้นจากระดับ 17 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว เป็น 174 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2050 ขณะที่รายได้จีดีพีเฉลี่ยต่อหัวจะอยู่ที่ 40,800 ดอลลาร์ เมื่อคิดคำนวณเป็นระดับค่าเงินปัจจุบันแล้ว

อย่างไรก็ดี รายงานของเอดีบีเตือนว่า ถ้าหากเอเชียจะทำให้การเติบโตอย่างน่าตื่นใจเช่นนี้มีความยั่งยืนในระยะยาวแล้ว ภูมิภาคนี้จะต้องลอกเลียนแบบความสำเร็จในอดีตของพวกชาติเอเชียที่มีผลงานดีที่สุด อันได้แก่ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, และสิงคโปร์ นั่นคือต้องมีการส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้ามีส่วนร่วมในการเจริญเติบโต และให้การเจริญเติบโตเป็นไปด้วยความยุติธรรม

เอดีบีย้ำเตือนว่า การผงาดขึ้นมาของเอเชียไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ไม่ต้องทำอะไรก็ต้องเป็นเช่นนั้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

“ผู้คนจำนวนมากมองการก้าวขึ้นครองอำนาจของเอเชีย - หรือ “ศตวรรษแห่งเอเชีย”-- ว่าเป็นเสมือนการมีอุปกรณ์ นักบินอัตโนมัติ ที่กำลังเปิดเครื่องทำงานอยู่ โดยที่ภูมิภาคนี้จะบินโฉบฉิวอย่างราบรื่นไปสู่ตำแหน่งแห่งที่อันถูกต้องของตนตามที่โชคชะตาได้ลิขิตไว้แล้ว” ฮารุฮิโกะ คุโรดะ ประธานเอดีบีกล่าวในคำนำของรายงานฉบับนี้

“แต่การอิ่มอกอิ่มใจนอนทอดหุ่ยคือความผิดพลาด ขณะที่ศตวรรษแห่งเอเชียคือสิ่งที่เป็นไปได้อย่างแน่นอน มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกลิขิตเอาไว้ล่วงหน้าแล้วแต่อย่างใด”

เอดีบีได้ระบุปัญหาท้าทายสำคัญๆ ของเอเชียเอาไว้ในรายงานฉบับนี้ เป็นต้นว่า ความไม่เท่าเทียมกันที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นทั้งภายในประเทศเอเชียหนึ่งๆ และระหว่างประเทศต่างๆ ของเอเชีย, ภาวะธรรมาภิบาลที่ย่ำแย่และการทุจริตคอร์รัปชั่นในหลายๆ ชาติเอเชีย, และการแข่งขันระดับภูมิภาคที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เพื่อช่วงชิงทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ
กำลังโหลดความคิดเห็น