เอเอฟพี - มูอัมมาร์ กัดดาฟี แห่งลิเบีย จะต้องสละอำนาจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หรือไม่ก็จะถูกบีบบังคับให้วางมือ บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงวานนี้ (19) ขณะเดียวกัน นาโต ประกาศว่า ได้ทำลายเครื่องจักรสงครามของกัดดาฟีจำนวนมาก ส่วนรัฐบาลลิเบีย ตอบโต้ผู้นำสหรัฐฯ ว่า หลงเชื่อคำโกหกของฝ่ายตัวเอง
ความเห็นของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นขณะเครื่องบินรบนาโตถล่มฝูงเรือของกองกำลังลิเบีย ซึ่งเทียบท่าอยู่บริเวณอู่เรือกรุงตริโปลี เมืองอัลคุมส์ และ เมืองซีราเต นับเป็นความพยายามจำกัดความสามารถในการรบของรัฐบาลเผด็จการลิเบีย
นอกจากนี้ บันคีมูน เลขาธิการยูเอ็นเปิดเผยกับเอเอฟพี ว่า ความพยายามใช้มาตรการหยุดยิงในลิเบียล้มเหลว และวิกฤตด้านมนุษยธรรมนับวันยิ่งเลวร้ายลง โดยฝ่ายกบฏลิเบียยอมรับว่า มีความกังวลอย่างยิ่งถึงสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมแถบเทือกเขานาฟูซา แม้ว่ากลุ่มกบฏสามารถยึดครองเมืองมิสราตา เมืองแนวหน้าในสมรภูมิได้ก็ตาม
“เวลาของกัดดาฟีกำลังหมดลง” โอบามา ปราศรัยในการแถลงใหญ่ว่าด้วยเรื่องการปฏิวัติโลกอาหรับ อันนำมาซึ่งการโค่นล้มผู้นำตูนิเซีย และอียิปต์ อีกทั้งสถานการณ์ที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในซีเรียและเยเมน
“เขาไม่ได้ปกครองประเทศอีกต่อไป ฝ่ายต่อต้านได้จัดตั้งสภาปกครองเฉพาะกาลที่น่าเชื่อถือและชอบด้วยกฎหมาย” โอบามา กล่าวถึงสภาการถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติลิเบียของกลุ่มกบฏ ซึ่งมีฐานบัญชาการอยู่ในเมืองเบงกาซี ทางตะวันออกของลิเบีย
“เมื่อใดก็ตามที่กัดดาฟีลงจากอำนาจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือถูกบีบบังคับให้วางมือ เมื่อนั้นยุคสมัยแห่งการยั่วยุจะสิ้นสุดลง การถ่ายโอนอำนาจไปสู่ระบอบประชาธิปไตยจะเริ่มต้น” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงสุนทรพจน์ไว้เช่นนั้น
ก่อนหน้านี้ แอนเดอร์ส ฟอกห์ ราสมุสเซน เลขาธิการนาโต เคยกล่าวไว้ว่า การโจมตีกองกำลังกัดดาฟีอย่างหนักจะนำมาซึ่งจุดจบของระบอบการปกครองในที่สุด โดยเมื่อช่วงดึกคืนวันพฤหัสบดี (19) เครื่องบินรบของนาโตปฏิบัติการถล่มเป้าหมายที่ท่าเรือกรุงตริโปลี เมืองอัลกุมส์ และเมืองซีราเต ซึ่งสามารถทำลายเรือรบได้ทั้งหมด 8 ลำ
ด้านรัฐบาลลิเบียออกมาตอบโต้วาทกรรมของโอบามา โดยนิยามพฤติกรรมของผู้นำสหรัฐฯ ว่า “คิดไปเอง” หลังจากยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า กัดดาฟีต้องสละอำนาจแน่นอน
“โอบามายังคงหลงผิด เขาเชื่อคำโกหกที่รัฐบาลสหรัฐฯ และสื่อของตัวเองเผยแพร่ไปทั่วโลก” มุสซา อิบราฮิม โฆษกรัฐบาลลิเบียแถลงข่าวจากกรุงตริโปลี “คนที่จะตัดสินว่ากัดดาฟีควรอยู่หรือไปไม่ใช่โอบามา แต่เป็นประชาชนชาวลิเบีย”
ทั้งนี้ สถานการณ์ของมูอัมมาร์ กัดดาฟี ล่อแหลมมากยิ่งขึ้น หลังจากลุยส์ โมเรโน-โอกัมโป หัวหน้าอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ร้องขอหมายจับตัวผู้นำลิเบีย ซาอิฟ อัล-อิสลาม บุตรชายคนที่ 2 และอับดุลเลาะห์ อัล-เซนุสซี พี่เขยของกัดดาฟี ฐานก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลลิเบียไม่แยแสต่อกระแสการออกหมายจับดังกล่าว โดยโต้แย้งว่าศาลอาญาระหว่างประเทศไม่มีอำนาจในลิเบีย ขณะเดียวกันได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาสั่งฆ่าประชาชน หรือการจ้างวานทหารรับจ้างปราบปรามผู้ชุมนุม