เอเอฟพี - กองกำลังพันธมิตรตะวันตกอาศัยความมืดมิดของค่ำคืนวันจันทร์ (28) ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อทหารผู้ภักดีต่อมูอัมมาร์ กัดดาฟี ระลอกใหม่ทั้งในตอนกลางและตะวันตกของลิเบีย ท่ามกลางความฮึกเหิมของฝ่ายกบฏที่ลั่นนำตัวประธานาธิบดีรายนี้เข้าสู่การพิจารณาคดีในลิเบียเมื่อได้รับชัยชนะแล้ว
สำนักข่าวแห่งรัฐลิเบียรายงานว่า เป้าหมายทางพลเรือนและทางทหารในเมืองเมซดา ทางตอนกลางและการีอาน ทางตะวันตกของประเทศถูกโจมตีโดยพวกล่าอาณานิคมผู้รุกราน ขณะที่เมืองทาจูรา ซึ่งห่างจากกรุงตริโปลีไปทางตะวันออกไม่กี่กิโลเมตร ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าได้ยินเสียงระเบิด 9 ครั้งซ้อนระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของพันธมิตร
นอกจากนี้ สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐอ้างคำสัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ทหารรายหนึ่งเปิดเผยด้วยว่าพันธมิตรตะวันตกยังยิงถล่มเมืองซูร์มัน ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงตริโปลีไปทางตะวันตกเพียง 70 กิโลเมตรด้วย อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดยังไม่มีรายงานความเสียหาย รวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ปฏิบัติการโจมตีของชาติตะว้นตก อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกำหนดเขตห้ามบินที่ได้รับอาณัติจากสหประชาชาติ ถูกกล่าวหาจากรัฐบาลลิเบียว่าเข้าข้างฝ่ายกบฏที่กำลังสู้รบกับรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ (28) ฝ่ายกบฏที่อาศัยการโจมตีของพันธมิตรตะวันตก พลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบเหนือกองทัพกัดดาฟี พยายามจะขยายอาณาเขตยึดครองไปทางตะวันตกสู่กรุงตริโปลี ด้วยการบุกเมืองซีราเต ที่ตั้งฐานทัพสำคัญของกัดดาฟี อย่างไรก็ตาม ทหารผู้ภักดีต่อระบอบยังคงต้านทานไว้ได้และโจมตีกลับจนฝ่ายกบฏต้องถอยร่นไปตั้งมั่นในเมืองบิน จาวัด ซึ่งกลายเป็นสมรภูมิแนวหน้าในตอนนี้
แต่กระนั้นทางผู้นำของฝ่ายกบฏมีความเชื่อมั่นว่าจะเป็นฝ่ายมีชัยเหนือศึกนี้ และได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฝรั่งเศสเมื่อวันจันทร์ (28) ว่าจะนำตัวกัดดาฟีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในลิเบีย หลังได้รับชัยชนะแล้ว
“หลังได้รับชัยชนะเราจะพยายามดำเนินคดีเขาในลิเบีย สำหรับความผิดใดๆ ที่เขาก่อไว้” มุสตาฟา อับเดล จาลิล บอกกับผู้สื่อข่าวของฟรองซ์ 2 ในเมืองเบงกาซี ป้อมปราการสำคัญของฝ่ายกบฏ
“เราจะสร้างประเทศแห่งเสรีภาพ ประชาธิปไตยที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชนและทางเลือกการเมืองของประชาชน” เขากล่าว พร้อมระบุว่าก่อนหน้านี้ชาวลิเบียต้องเจอกับทางเลือกที่ยากลำบากอันเนื่องจากต้องเจอกับผู้นำที่กดขี่
