เอเอฟพี - นักรบฝ่ายกบฏและพลเรือนหลายพันคนหลบหนีออกจากอัจดาบิยะห์ เมื่อวันพฤหัสบดี (7) ท่ามกลางข่าวลือว่ากองกำลังของกัดดาฟีกำลังโจมตีรุกคืบมายังเมืองสำคัญทางตะวันออกของประเทศแห่งนี้
ประชาชนหลายครอบครัวแออัดอยู่บนรถยนต์และรถบรรทุก พากันอพยพอย่างตื่นตระหนกไปพร้อมกับยานยนต์ทางทหารซึ่งบรรทุกเครื่องยิงจรวดและปืนกล มุ่งหน้าไปยังตะวันออกเฉียงเหนือ สู่เมืองเบงกาซี ป้อมปราการของฝ่ายกบฏ ที่อยู่ห่างออกไปราว 160 กิโลเมตร
กองกำลังของฝ่ายกบฏยึดเมืองอัจดาบิยะห์ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา หนึ่งสัปดาห์หลังชาติตะวันตกปฏิบัติการโจมตีทางอากาศและยิงขีปนาวุธร่อนถล่มทหารฝ่ายสนับสนุนประธานาธิบดี มูอัมมาร์ กัดดาฟี จนล่าถอยออกไปจากประตูเมืองเบนกาซี ตามอาณัติของสหประชาชาติเพื่อปกป้องพลเมืองในลิเบีย
ทว่า หลังจากรุกคืบขยับเข้ามาจ่อซีราเต เมืองบ้านเกิดของ กัดดาฟี ในรัศมีเพียง 60 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 28 มีนาคม นับตั้งแต่นั้นนักรบกบฏกลับถูกตอบโต้อย่างหนัก จนต้องล่าถอยไปกว่า 400 กิโลเมตร แม้ได้แรงสนับสนุนจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของพันธมิตรตะวันตกก็ตาม
เหตุปะทะติดหล่มอยู่รอบบรีกา เมืองแหล่งน้ำมันสำคัญนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ ทว่าจนกระทั่งเมื่อวันพุธ(6) ทหารฝ่ายภักดีต่อกัดดาฟี ก็รุกไล่จนฝ่ายกบฏต้องล่าถอยไปปักหลักก่อนถึงเมืองอัจดาบิยะห์ราว 40 กิโลเมตรเท่านั้น
การรุกคืบของฝ่ายกัดดาฟีมีขึ้นขณะที่นาโต ต้องเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางข้อครหาดำเนินการล่าช้าและปล่อยให้กองกำลังของรัฐบาลลิเบียสังหารประชาชน โดยเมื่อวันพุธ (6) นายพล อับดุล ฟัตตาห์ ยูนิส ผู้บัญชาการฝ่ายต่อต้านลิเบีย ตำหนินาโตว่าล้มเหลวสำหรับการปกป้องพลเมืองในมิสราตา
ขณะเดียวกัน เมื่อวันพฤหัสบดี (7) อังกฤษ หนึ่งในกองกำลังของนาโต ถูกรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของลิเบียฝ่ายสนับสนุนกัดดาฟี กล่าวหาว่า ทิ้งระเบิดโจมตีแหล่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุด ในเมืองอัลซารีร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศในวันพุธ (7) ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ทาง นาโต ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยระบุว่าต้นตอของเหตุระเบิดของแหล่งน้ำมันแห่งนี้ น่าจะมาจากเหตุปะทะประปรายระหว่างฝ่ายกบฏกับทหารของกัดดาฟีมากกว่า