ทหาร “กัดดาฟี” ยอมถอยจากมิสราตา-ตะวันตกโอ่ผลงานชิ้นโบแดง

เอเจนซี - กองกำลังของรัฐบาลลิเบียภายใต้การนำของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ยอมล่าถอยออกจากเมืองมิสราตาซึ่งยึดครองมานานกว่า 2 เดือนแล้ว แต่ยังยึดฐานที่มั่นของฝ่ายกบฎในเขตภูเขาทางภาคตะวันตกไว้ได้ ขณะที่ผู้นำลิเบียก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะยอมลงจากอำนาจ

“มิสราตาเป็นอิสระแล้ว ฝ่ายกบฏได้ชัยชนะ ส่วนทหารกัดดาฟีนั้นส่วนหนึ่งถูกสังหาร ที่เหลือก็หนีไปหมด” โฆษกของฝ่ายกบฏกล่าว

คอลิด ดอร์แมน ทหารฝ่ายรัฐบาล 1 ใน 12 นายซึ่งถูกนำส่งโรงพยาบาลในเมืองมิสราตา ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า “เราได้รับคำสั่งให้ถอยเมื่อวานนี้ (23)”

แม้การยึดคืนเมืองมิสราตาจะถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญสำหรับฝ่ายต่อต้านรัฐบาล แต่จุดจบของสงครามกลางเมืองในลิเบียยังไม่แน่นอน เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างก็มีชัยสลับกันไป ขณะที่สำนักข่าวอัลจาซีราห์รายงานว่า เมื่อวานนี้ (23) ยังมีการปะทะอย่างรุนแรงเกิดขึ้นรอบๆ โรงพยาบาลในเมืองมิสราตา ซึ่งถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการของทหารกัดดาฟี

โฆษกฝ่ายกบฏเปิดเผยว่า ทหารฝ่ายรัฐบาลสามารถยึดเมืองยาฟราน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณภูเขาทางภาคตะวันตกของประเทศไว้ได้วานนี้ (23) ขณะที่ฝ่ายกบฏก็สามารถยึดจุดผ่านแดนใกล้กับตูนิเซียได้เมื่อ 2 วันก่อน และเร่งขนเสบียงเข้าไปยังเมืองที่เกิดการปะทะแล้ว ซึ่งพวกเขาบอกว่ารู้สึกมีกำลังใจหลังจากที่ทราบว่ามิสราตาพ้นจากเงื้อมมือของทหารกัดดาฟี

ด้าน คอลิด กาอิม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศลิเบีย กล่าวว่า นาโตได้โจมตีฐานที่มั่นของทหารกัดดาฟีหลายจุดในเมืองซีราเต, การ์ยัน, อาซีซียะห์, ตรีโปลี และ ฮิรอ วานนี้ (23) โดยที่กรุงตริโปลีเกิดเสียงระเบิดขึ้น 3 ครั้งขณะที่เครื่องบินของนาโตบินผ่าน ทำให้ทหารลิเบียยิงตอบโต้ด้วยปืนต่อสู้อากาศยาน

ชัยชนะที่มิสราตาทำให้กองทัพฝ่ายตะวันตกต่างออกมาประกาศผลงาน โดยอังกฤษแถลงว่า ได้ส่งเครื่องบินรบเข้าโจมตียานเกราะของทหารลิเบีย ส่วนนาโตก็ระบุว่าเครื่องบินไร้คนขับ พรีเดเตอร์ ที่สหรัฐฯ นำมาใช้เป็นครั้งแรก ได้ทำลายฐานยิงขีปนาวุธใกล้กับมิสราตา วานนี้(23)

ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส กล่าวกับหัวหน้าฝ่ายกบฎในสัปดาห์นี้ว่า ฝรั่งเศสจะยกระดับการโจมตีทางอากาศในลิเบียด้วย

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าการโจมตีทางอากาศของอังกฤษและฝรั่งเศสยังเบาเกินกว่าจะได้ชัยชนะอย่างเด็ดขาด ส่วนเครื่องบินไร้คนขับที่สหรัฐฯ นำมาใช้ก็เพียงแต่ช่วยให้ฝ่ายกบฎมีใจฮึกเหิมขึ้นเท่านั้น แต่ไม่สามารถยุติการคุมเชิงของมหาอำนาจตะวันตก ที่ไม่กล้าใช้ปฏิบัติการทางทหารอย่างเต็มรูปแบบในลิเบีย