เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ แถลงรายงานเกี่ยวกับการสถานการณ์ล่าสุดในลิเบีย โดยบอกกับประชาชนชาวอเมริกันว่าสหรัฐฯ ต้องแทรกแซงลิเบีย เพื่อป้องกันการสังหารหมู่พลเรือนในลิเบีย พร้อมเตือนว่าการใช้กำลังโค่นมูอัมมาร์ กัดดาฟี ลงจากอำนาจนั้นอาจซ้ำรอยเหตุลองเลือดในอิรักอีก
“ในฐานะประธานาธิบดี ผมปฏิเสธที่จะรอให้มีภาพการเข่นฆ่า และการสังหารหมู่ก่อนลงมือปฏิบัติการ” โอบามากล่าว เป็นการเพิ่มข้ออ้างให้กับการตัดสินใจของเขาในการโจมตีกองทัพผู้ภักดีต่อกัดดาฟีทางอากาศ เพื่อคุ้มครองพลเรือน
ผู้นำสหรัฐฯ แถลงใหญ่ถ่ายทอดทางโทรทัศน์จากมหาวิทยาลัยเนชันนัล ดีเฟนส์ ในกรุงวอชิงตันครั้งนี้ หลังจากกลุ่มกบฏลิเบียสามารถยึดเมืองสำคัญคืนจากรัฐบาลได้ และก่อนหน้าการประชุมระดับนานาชาติในกรุงลอนดอน เพื่อหารือเกี่ยวกับอนาคตของลิเบีย
โอบามายังปฏิเสธว่า เขาไม่ได้สละความเป็นผู้นำให้กับพันธมิตรของสหรัฐฯ รวมถึงที่ว่าเขาไม่สามารถกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์ให้กับประชาชนซึ่งกังวลต่อสงครามการสู้รบได้อย่างชัดเจน
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสริมว่า เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการต่อต้านกองกำลังของกัดดาฟี ขณะที่สามารถถล่มเมืองสำคัญอย่างเบงกาซีได้สำเร็จ โดยว่าเมืองดังกล่าวอาจประสบกับเหตุสังหารหมู่ ซึ่งเกิดขึ้นไปทั่วทั้งภูมิภาค และยังเป็นรอยด่างพร้อยของโลก
อย่างไรก็ตาม โอบามาไม่ได้วางแผนถึงการยุติเกมความขัดแย้งครั้งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่าเจาอาจต้องเลือกข้างในสงครามกลางเมืองของตะวันออกกลางซึ่งยากจะควบคุม และเกรงว่าจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ นอกเสียจากกัดดาฟีถูกโค่นล้ม
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันชัดเจนว่าเขาต้องการให้กัดดาฟีลงจากอำนาจ แต่เตือนว่าการใช้กำลังทหารเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองนั้นจะส่งผลในทางตรงกันข้ามกับที่ตั้งใจ และก่อให้เกิดความเสียหายอย่างแน่นอน
ขณะที่ชาติมหาอำนาจหลายประเทศ รวมถึงอังกฤษ และฝรั่งเศส จะนัดหารือกันในกรุงลอนดอนวันนี้ (29) เพื่อประเมินความสำเร็จของกองกำลังพันธมิตรในการปราบปรามกัดดาฟี และเพื่อพิจารณาหาวิธีโค่นล้มผู้นำเผด็จการรายนี้ลงโดยไม่ใช่กำลังทหาร