เอเอฟพี - โตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ โค (เทปโก) ออกมายอมรับว่า เคยกุรายงานผลซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ ก่อนหน้าที่จะเกิดแผ่นดินไหวเพียงไม่กี่วัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โรงไฟฟ้าได้รับความเสียหายรุนแรงจากเหตุธรณีพิบัติ
การเผยความจริงครั้งนี้ก่อให้เกิดคำถามมากมาย ทั้งเรื่องประวัติเสื่อมเสียของเทปโก และข้อบังคับสำหรับอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ในญี่ปุ่นที่ถูกมองว่าหละหลวมเกินไป
เทปโกได้ส่งรายงานถึงสำนักงานความปลอดภัยนิวเคลียร์ญี่ปุ่นประมาณ 10 วันก่อนเกิดแผ่นดินไหว โดยยอมรับว่าไม่ได้ตรวจสอบอุปกรณ์ 33 ชิ้นภายในเตาปฏิกรณ์ทั้ง 6 แห่ง
แผงไฟฟ้าสำหรับแจกจ่ายกระแสไฟไปยังวาล์วควบคุมอุณหภูมิเตาปฏิกรณ์ ไม่ได้รับการตรวจสภาพมานานถึง 11 ปี นอกจากนี้ ผู้ตรวจสอบยังเคยกุรายงานเท็จ โดยระบุผลตรวจสภาพอย่างละเอียด ทั้งที่ความจริงทำอย่างผิวเผินเท่านั้น
เทปโกยอมรับด้วยว่าไม่ได้ตรวจสภาพอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบหล่อเย็น เช่น มอเตอร์สูบน้ำ และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองแบบดีเซล
รายงานดังกล่าวถูกเปิดเผยหลังจากที่สำนักงานความปลอดภัยนิวเคลียร์สั่งให้เทปโก้กลับไปตรวจสอบว่าการซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าเป็นไปโดยละเอียดรัดกุมหรือไม่ ซึ่งหลังจากได้รับรายงาน ทางสำนักงานก็สั่งให้เทปโกร่างแผนแก้ไขให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 2 มิถุนายน
แต่หลังจากนั้นราว 1 สัปดาห์ก็เกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.0 นอกชายฝั่งญี่ปุ่น ทำให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เชื่อมกับระบบหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์เสียหายอย่างหนัก
เจ้าหน้าที่สำนักงานความปลอดภัยนิวเคลียร์ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ กล่าวว่า “เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าข้อบกพร่องในรายงานเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ไม่ได้มีส่วนทำให้เกิดเหตการณ์ต่างๆ ซึ่งนำมาสู่วิกฤตนิวเคลียร์ในขณะนี้”
“เราจะต้องตรวจสอบการทำงานของเทปโกตั้งแต่อดีตจนกระทั่งเกิดวิกฤตครั้งนี้โดยละเอียด แต่เวลานี้จะต้องควบคุมสถานการณ์ในโรงไฟฟ้าให้ได้เสียก่อน”
เจ้าหน้าที่ดับเพลิง, ตำรวจ และทหาร กำลังพยายามฉีดน้ำหล่อเตาปฏิกรณ์ที่ได้รับความเสียหาย เพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิแท่งเชื้อเพลิงสูงขึ้น และพยายามเชื่อมกระแสไฟให้ระบบหล่อเย็นกลับมาทำงานได้อีกครั้ง
เทปโกยอมเปิดเผยรายงานดังกล่าว หลังมีการตรวจพบสัญญาณความละเลยที่โรงไฟฟ้า คาชิวาซากิ คาริวะ ซึ่งเคยประสบปัญหาลักษณะเดียวกันจากแผ่นดินไหวปี 2007 และมีปริมาณรังสีแพร่กระจายสูงกว่าที่เทปโกยอมรับ
“พวกเขายอมรายงานความจริง เพราะกลัวว่าจะเดือดร้อนถ้าไม่ทำเช่นนั้น” เจ้าหน้าที่สำนักงานความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์อีกคนหนึ่งกล่าว