เอเอฟพี - พนักงานจากโตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ (เทปโก) บริษัทผู้รับผิดชอบควบคุมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่กำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตในขณะนี้ จับมือกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทด้านพลังงานอื่นๆ ในญี่ปุ่น อาสาสมัครเข้าไปควบคุมเตาปฏิกรณ์ เพื่อป้องกันมหันตภัยกัมมันตภาพรังสีที่มีความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้นทุกขณะ สำนักข่าวท้องถิ่นรายงาน
บริษัท เทปโก ขอแรงอาสาสมัครประมาณ 20 คนให้เข้าไปกู้วิกฤตนิวเคลียร์ และควบคุมสถานการณ์ในโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ หมายเลข 1 ซึ่งระบบหล่อเย็นล้มเหลวจากเหตุแผ่นดินไหวระดับ 9.0 และคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อวันศุกร์ (11) ที่ผ่านมา สำนักข่าวจิจิเพรส รายงาน
ข้อมูลของสำนักข่าวท้องถิ่นแห่งนี้ระบุว่า อาสาสมัครทั้ง 20 คน ป็นพนักงานของบริษัทเทปโก และบริษัทอื่นๆ รวมกัน ในจำนวนนี้มีพนักงานชายวัย 59 ปี ซึ่งทำงานในสถานีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มานานกว่า 40 ปี และมีกำหนดเกษียณอายุในอีก 6 เดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เอเอฟพียังไม่สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทเทปโก เพื่อยืนยันข้อมูลดังกล่าวได้
วันนี้ (17) เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพญี่ปุ่นได้ปล่อยน้ำราดลงบนเตาปฏิกรณ์ หน่วยที่กำลังวิกฤตของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ เพื่อดับความร้อนของแท่งเชื้อเพลิง และป้องกันการปลดปล่อยกัมมันตภาพรังสีมหาภัยที่ทั่วโลกกำลังหวั่นเกรง
วัตถุประสงค์ปฏิบัติการดังกล่าว คือ การปล่อยน้ำให้ท่วมแท่งเชื้อเพลิงภายในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่มีความร้อนสูงเพื่อไม่ให้แท่งเชื้อเพลิงเหล่านั้นหลอมละลายเมื่อสัมผัสกับอากาศ และอาจปล่อยรังสีที่เป็นอันตรายออกมา
สำนักข่าวจิจิเพรสได้นำข้อความบนทวิตเตอร์ของสตรีชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งมาเปิดเผย โดยเธอระบุว่า เป็นบุตรสาวของอาสาสมัครวัย 59 ปีคนดังกล่าว และได้แสดงความภาคภูมิใจระคนกลัดกลุ้ม เมื่อทราบเรื่องที่พ่อของเธออาสาเข้าร่วมทีมกู้วิกฤตชาติ เพื่อยับยั้งการรั่วไหลของกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ แม้ภาระหน้าที่ดังกล่าวต้องเสี่ยงอันตรายใหญ่หลวงก็ตาม
“ฉันต้องฝืนทนกลั้นน้ำตาเมื่อรู้ข่าวพ่อ พ่อที่กำลังเกษียณอายุในอีก 6 เดือน อาสาสมัครไป” ข้อความของเธอบนทวิตเตอร์ระบุ “พ่อพูดว่า 'อนาคตของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขึ้นอยู่กับวิธีจัดการกับวิกฤตครั้งนี้ของเรา พ่อต้องไปเพราะมันเป็นหน้าที่' ... ฉันไม่เคยภูมิใจในตัวพ่อเท่านี้มาก่อน”