เอเอฟพี/เอเจนซี - บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหับดี (3) โมอัมมาร์ กัดดาฟี สูญเสียความชอบธรรมทางกฎหมายแล้วและต้องลาออกจากตำแหน่ง พร้อมเตือนกำลังศึกษาทุกทางเลือกสำหรับจัดการกับวิกฤตที่ยืดเยื้อยาวนาน 3 สัปดาห์ อันรวมไปถึงกำหนดเขตห้ามบินด้วย
“สหรัฐฯ และทั่วโลกล้วนแต่เจ็บปวดต่อเหตุทำร้ายประชาชนชาวลิเบีย” โอบามา แถลงต่อผู้สื่อข่าว ณ ทำเนียบขาว “เรายังคงส่งสารที่ชัดแจ้งว่าจงหยุดความรุนแรงเดี๋ยวนี้ โมอัมมาร์ กัดดาฟี สูญเสียความชอบธรรมทางกฎหมายสำหรับตำแหน่งผู้นำแล้วและเขาต้องไป” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวหลังจากหารือกับ เฟลิเป กัลเดรอน ประธานาธิบดีเม็กซิโก
สถานการณ์การสู้รบล่าสุดในลิเบีย กลุ่มกบฏนักรบได้ตีโต้กองกำลังผู้ภักดีกัดดาฟีจนถอนร่นออกจากเมืองบรีกา อันเป็นเมืองท่าส่งออกน้ำมันแห่งสำคัญของประเทศเมื่อวันพุธ (2) แม้ฝ่ายหลังจะโจมตีอย่างหนักหน่วงทั้งทางบกและทางอากาศจนทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 12 รายก็ตาม แต่กระนั้น ฝ่ายกัดดาฟีได้บุกจู่โจมเมืองยุทธศาสตร์แห่งนี้อีกครั้งด้วยเครื่องบินขับไล่เมื่อวานนี้ (3) โดยที่ฝ่ายกบฏได้กำลังมาเสริมจากเมืองอัจดาบียะห์ ซึ่งเป็นเมืองติดกัน
การโจมตีดังกล่าวจุดชนวนความกังวลว่าอาจมีความพยายามรอบใหม่ของกองกำลังผู้จงรักภักดีต่อกัดดาฟีในการยึดคืนเมืองท่าสำคัญแห่งนี้ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเบนกาซี เพียง 200 กิโลเมตร
ระหว่างแถลงต่อผู้สื่อข่าว โอบามายังบอกอีกว่า รัฐบาลของเขากำลังพิจารณาทุกทางเลือกอย่างเต็มรูปแบบสำหรับจัดการกับวิกฤตในลิเบีย เพื่อหลีกเลี่ยงตัวเลือกที่ผิดพลาด พร้อมกันนั้นก็ระบุด้วยว่าหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป สหรัฐฯอาจจำเป็นต้องหาทางส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวลิเบีย
เมื่อถามว่าทางเลือกต่างๆ เหล่านั้นรวมไปถึงการกำหนดเขตห้ามเหนือน่านฟ้าลิเบียด้วยหรือไม่ โอบามาตอบว่า “มันเป็นหนึ่งในหลายๆ ทางเลือกที่เรากำลังพิจารณาอยู่”
อย่างไรก็ตาม โอบามากล่าวว่า เวลานี้เป้าหมายแรกคือการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมขณะที่ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพหนีเหตุความไม่สงบในลิเบีย กระนั้นประธานาธิบดีรายนี้เน้นว่ากัดดาฟีสนับสนุนการใช้ความรุนแรงต่อพลเมืองที่ไม่มีอาวุธ
“ผมไม่ต้องการให้เราก่อความผิดพลาด ผมต้องการให้เราตัดสินใจภายใต้พื้นฐานที่เชื่อว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประชาชนชาวลิเบีย และภายใต้การปรึกษาหารือกับประชาคมนานาชาติ เราจะไม่หารือกันเฉพาะหน่วยงานของเราในสหรัฐฯ แต่เราจำเป็นต้องปรึกษากับนาโตด้วย” เขากล่าว
ในวันพฤหัสบดี (3) ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ของเวเนซุเอลา ผู้เป็นพันธมิตรเหนียวแน่นของกัดดาฟี เสนอแผนสันติภาพโดยจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากละตินอเมริกา, ยุโรป และตะวันออกกลาง เพื่อมาเป็นตัวกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างผู้นำลิเบียกับกลุ่มกบฏ อยางไรก็ตามล่าสุดความพยายามดังกล่าวทำท่าจะเป็นหมันเมื่อทั้งสองฝ่ายล้วนไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้
โฆษกของกลุ่มกบฏที่เพิ่งจัดตั้งสภาแห่งชาติลิเบียทางตะวันออกของประเทศ บอกว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ กัดดาฟี ลาออกจากตำแหน่งหรือลี้ภัยไปต่างแดนเพื่อหยุดยั้งการนองเลือด ส่วน ซาอีฟ อัล อิสลาม ลูกชายของกัดดาฟี ชี้ว่าไม่จำเป็นต้องให้ต่างชาติเข้ามามีบทบาทในการยุติวิกฤตของลิเบีย
ซาอีฟกล่าวว่า “เราขอขอบคุณ แต่เรามีความสามารถพอที่จะคลี่คลายประเด็นของเราด้วยประชาชนของเราเองและตัวเราเอง และไม่จำเป็นต้องให้ชาติไหนเข้ามาแทรกแซง”