เอเจนซี - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประณามเหตุการณ์นองเลือดในลิเบียว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ พร้อมระบุว่าเขาจะร่วมกับหลายๆ ประเทศกดดันให้รัฐบาลของประธานาธิบดี โมอัมมาร์ กัดดาฟี รับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว
โอบามาแสดงความเห็นต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับการใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนมในลิเบียอย่างรุนแรง รวมถึงเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศของภูมิภาคนี้ โดยว่ารัฐบาลของเขากำลังหาทางเลือกสำหรับวิกฤตดังกล่าวอย่างเต็มที่
“ความเจ็บปวด และการนองเลือดเป็นการกระทำที่รุนแรง และไม่สามารถยอมรับได้” เขากล่าว “ความรุนแรงเช่นนี้จำเป็นต้องยุติลง”
ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ได้ระบุว่า รัฐบาลวอชิงตันจะดำเนินการอย่างไรกับลิเบีย แต่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ได้เผยก่อนหน้านี้ว่า อาจจะมีใช้มาตรการลงโทษด้วยการอายัดทรัพย์สินต่างๆ ซึ่งรวมถึงทรัพย์สินของกัดดาฟีด้วย
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่า ทางเลือกของสหรัฐฯ ที่จะเข้าไปแทรกแซงเหตุนองเลือดในลิเบียนั้นมีจำกัด ไม่เเหมือนสถานการณ์ในอียิปต์ และบาห์เรน ซึ่งวอชิงตันสามารถกดดันได้ในฐานะชาติพันธมิตรอันยาวนาน และผู้ให้การสนับสนุนทางการเงิน
นอกจากนี้ โอบามา ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่จับมือกับกัดดาฟี ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายว่าไม่ยอมออกมากล่าวอะไรก่อนหน้านี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า สหรัฐฯ ต้องการให้แน่ใจว่าชาวอเมริกันในลิเบียจะอพยพออกมาได้อย่างปลอดภัยเสียก่อน
รัฐบาลสหรัฐฯ ประเมินว่า มีชาวอเมริกันหลายพันคนอาศัยอยู่ในลิเบีย ส่วนใหญ่ถือสองสัญชาติ และมีประมาณ 600 คน ที่ถือพาสปอร์ตสหรัฐฯ อย่างเดียว ซึ่งมีการเตรียมอพยพพลเมืองอเมริกัน และชาติอื่นๆ ออกจากลิเบียโดยเรือเช่าเหมาลำไปยังเกาะมอลตา ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ขณะที่สหรัฐฯ กำลังหาทางลงโทษลิเบียอย่างรอบคอบ แต่รัฐบาลของหลายประเทศในสหภาพยุโรปได้เริ่มใช้มาตรการต่างๆ กับประเทศนี้แล้ว เช่น คำสั่งการห้ามเดินทาง ห้ามค้าอาวุธ และการอายัดทรัพย์สิน
โอบามา ยังระบุว่าจะส่งฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางไปนครเจนีวา เพื่อร่วมประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในสุดสัปดาห์นี้ และร่วมหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศของชาติพันธมิตรสหรัฐฯ ด้วย