เอเอฟพี - สถานเอกอัครราชทูตลิเบีย ประจำออสเตรเลีย เตรียมตัดหางปล่อยวัด มูอัมมาร์ กัดดาฟี ตามกระแสสละตำแหน่งของนักการทูตระดับสูงของลิเบียทั่วโลก เพื่อกดดันผู้นำจอมเผด็จการ หลังเหตุสลายการชุมนุมอันนองเลือด สื่อท้องถิ่นรายงานวันนี้ (22) ขณะเดียวกัน โปรตุเกสเริ่มอพยพประชาชนออกจากลิเบียแล้ว
หนังสือพิมพ์ดิออสเตรเลียน เสนอรายงานข่าวว่า มุสบาห์ อัลลาฟี เอกอัครราชทูตลิเบียประจำกรุงแคนเบอร์รา ได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลออสเตรเลีย เมื่อช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม นักข่าวยังไม่สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่สถานทูตลิเบียได้ ทว่า โอมรัน ซเวด กงสุลด้านวัฒนธรรมประจำสถานทูตลิเบีย ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ว่า “เราเป็นตัวแทนประชาชนลิเบีย จะไม่มีระบอบเผด็จการอีกต่อไป”
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูติลิเลียประจำอินเดีย ได้แจ้งกับเอเอฟพีวันนี้ เช่นกัน โดยระบุว่า เขาขอสละตำแหน่ง เนื่องจากรับไม่ได้กับการใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชน ขณะที่เจ้าหน้าที่สถานทูตลิเบียในมาเลเซีย ก็ออกมาประณาม “การสังหารหมู่” กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล
วานนี้ (21) เหล่านักการทูตลิเบียในสหรัฐฯ ก็ได้วิพากษ์ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ว่าเป็น “ทรราชจอมเผด็จการ” และกล่าวหาประธานาธิบดีผู้ลุแก่อำนาจผู้นี้ ว่า กระทำ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ส่วนเมื่อวันอาทิตย์ (20) ผู้แทนถาวรของลิเบียประจำสันนิบาตอาหรับ อับเดล โมเนอิม อัล-โฮนี ก็ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน เพื่อ “ร่วมดันกงล้อปฏิวัติ” ซึ่งขจรขจายในประเทศของเขาอยู่ในขณะนี้
ด้านออสเตรเลียได้ยกระดับการเตือนภัยขึ้นเป็น “ห้ามเดินทาง” ซึ่งเป็นการเตือนขั้นสูงสุด และมีการเตรียมอพยพชาวออสเตรเลียประมาณ 80 คน ในลิเบีย หลังมีรายงานว่า ทางการลิเบียสั่งการเครื่องบินรบกราดยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วง ส่วน นิวซีแลนด์ ซึ่งมีพลเรือนติดค้างอยู่ในลิเบียประมาณ 25 คน ก็ได้ยกระดับการเตือนภัยขึ้นเป็นระดับ “ความเสี่ยงสูงสุด”
อนึ่ง โปรตุเกสกลายเป็นประเทศแรกๆ ที่เริ่มอพยพพลเรือนออกจากลิเบีย โดยส่งเครื่องบินทหารไปรับผู้คนจำนวน 114 คน จากกรุงตริโปลีไปยังฐานทัพนาโต ในอิตาลี คืนที่ผ่านมา สำนักข่าวลูซารายงานวันนี้
เครื่องบินลำเลียง ซี-130 ของกองทัพโปรตุเกส เดินทางถึงกรุงตริโปลีวานนี้ (21) และได้อพยพชาวโปรตุเกสจำนวน 80 คน รวมทั้งชาวต่างชาติอีก 34 คนออกจากลิเบีย
รุย อเลโซ เอกอัครราชทูตโปรตุเกสประจำลิเบีย กล่าวว่า ผู้อพยพทั้งหมดเป็นพนักงานของบริษัทสัญชาติโปรตุเกส และเจ้าหน้าที่ขององค์การสหประชาชาติ สำนักข่าวลูซารายงานเพิ่มเติมว่า เครื่องบินลำเลียงลำนี้จะกลับไปยังลิเบียอีกครั้ง เพื่อรอรับการอพยพเพิ่มเติม