เอเอฟพี - การสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่สุดสำหรับนักเรียนแดนอาทิตย์อุทัย กำลังถูกบ่อนทำลายความศักดิ์สิทธิ์ หลังมีการโพสต์ข้อสอบบนเว็บเพจ “ยาฮู! รู้รอบ” เพื่อให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตช่วยหาคำตอบ มหาวิทยาลัยต่างๆ ยอมรับวันนี้ (27)
คำถามวิชาคณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ จากข้อสอบเอนทรานซ์มหาวิทยาลัยเกียวโต อันทรงเกียรติ ถูกโพสต์ขึ้นบน ยาฮู! รู้รอบ ของญี่ปุ่น เมื่อวันศุกร์ (25) และเสาร์ (26) ที่ผ่านมา คำถามที่ถูกโพสต์ขึ้นอินเทอร์เน็ตดังกล่าวเป็นฝีมือของผู้ใช้ชื่อว่า “aicezuki” และไม่นานหลังโพสต์คำถามดังกล่าว ก็มีผู้เข้ามาให้คำตอบ
เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยเกียวโต ได้ยืนยันแล้วว่า คำถามวิชาคณิตศาสตร์ดังกล่าวเป็นข้อสอบเอนทรานซ์ของทางมหาวิทยาลัยจริง
ส่วนมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ อาทิ มหาวิทยาลัยวาเซดะ และ มหาวิทยาลัยเคอิโอะ ก็ประสบปัญหาเดียวกัน สื่อมวลชนญี่ปุ่นรายงานวันนี้ ขณะที่เหตุข้อสอบเอนทรานซ์รั่วของมหาวิทยาลัยเกียวโตกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งพาดหัวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ
หนังสือพิมพ์โยมิอูริ ชิมบุน ตั้งข้อสังเกตวิธีการโกงข้อสอบของบุคลลเหล่านี้ ว่า ผู้ที่เข้าสอบใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพคำถาม และส่งต่อให้กับผู้สมรู้ร่วมคิดที่คอยอยู่ข้างนอก ซึ่งเป็นผู้โพสต์คำถามดังกล่าวขึ้นบน ยาฮู! รู้รอบ
ส่วนสื่ออื่นๆ สันนิษฐานว่า กลุ่มคนที่ทำเรื่องนี้ อาจเพียงต้องการอวดความสามารถในการโกงข้อสอบ ซึ่งมีมาตรการตรวจตรา และควบคุมการสอบเอ็นทรานซ์อันเข้มงวด การสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นบทสรุปสำคัญของระบบการศึกษาในโรงเรียนญี่ปุ่น ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความกดดันและเคร่งเครียดของนักเรียน โดยการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำของญี่ปุ่นนั้นสามารถรับรองผลเป็นรูปธรรมได้ว่า จะได้งานที่ดีหลังจบการศึกษา
แม้เชื่อกันว่า การโกงข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะเกิดขึ้นน้อยครั้ง แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ทว่าด้วยวิธีการอื่นๆ อาทิ จ้างให้คนอื่นเข้าสอบแทน ซึ่งล้วนถูกจับได้
“สถาบันของเราได้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เราจะลงโทษขั้นเด็ดขาดกับผู้กระทำผิด” โตชิยูกิ อะวาจิ อาจารย์มหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการสอบเข้าสถานศึกษา กล่าว ทางด้านมหาวิทยาลัยโดชิชะ อีกหนึ่งสถานศึกษาอันทรงเกียรติของญี่ปุ่น ก็มีข้อสอบเอ็นทรานซ์รั่วไหลเช่นเดียวกัน และได้ระบุในคำแถลงว่า “เราจะสืบสวนเรื่องนี้ หากมีการยืนยันว่าผิดจริง เราจะลงโทษผู้กระทำผิดขั้นรุนแรง”