เอเอฟพี - เหล่าผู้บังคับบัญชาโดยตรงของพลทหารแบรดลีย์ แมนนิง ฝ่าฝืนข้อแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ซึ่งระบุว่า ไม่ควรส่งเขาไปประจำการยังอิรัก ทั้งนี้ พลฯ แมนนิง ตกเป็นผู้ต้องสงสัย กรณีส่งมอบข้อมูลลับของรัฐบาลให้กับวิกิลีกส์ เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานวานนี้ (1)
แบรดลีย์ แมนนิง ไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ในการปรับกำลังทหารจากค่ายฟอร์ต ดรัม นครนิวยอร์ก ไปยังอิรัก ทั้งๆ ที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชยืนยันว่า เขากำลังประสบปัญหาด้านพฤติกรรม สื่อสหรัฐฯ สำนักดังกล่าวรายงาน
“การตัดสินชี้ขาดว่า ทหารคนไหนเหมาะสมเข้าประจำการในพื้นที่สงครามหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาโดยตรงของทหารคนนั้น” วอชิงตันโพสต์รายงาน อ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ทหารรายหนึ่ง พร้อมทั้งเพิ่มเติมว่า ฝ่ายผู้บังคับบัญชาดังกล่าวที่เพิกเฉยต่อคำแนะนำของแพทย์ อาจมีส่วนทำให้เกิดการรั่วไหลของเอกสารลับสหรัฐฯ จำนวนมหาศาล
ในหนังสือ “WikiLeaks: Inside Julian Assange's war on secrecy” เผยว่า แมนนิงเสื่อมศรัทธาในกองทัพ ขณะประจำการอยู่ในอิรัก เมื่อเขาเคยแนะนำเกี่ยวกับการควบคุมตัวนักโทษชาวอิรัก 15 คน ซึ่งถูกจับฐานพิมพ์ “วรรณกรรมต่อต้านอิรัก” แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดใส่ใจ
ขณะนี้ แบรดลีย์ แมนนิงในวัย 23 ปีถูกขังเดี่ยวอยู่ในเรือนจำทหาร หลังเผชิญข้อหาละเมิดกฎหมายอาญาของสหรัฐฯ 8 กระทง ซึ่งรวมทั้ง กรณีการส่งต่อข้อมูลลับไปยังบุคคลที่สาม และกฎหมายทหารอีก 3 กระทง นับจากการตีแผ่ข้อมูลของวิกิลีกส์ครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ถูกเชื่อมโยงกับการรั่วไหลของข้อมูลโทรเลขทูตสหรัฐฯ เมื่อช่วงปลายปี 2010 ที่ผ่านมา แต่มีการเพ่งเล็งไปยังบทบาทของเขาต่อวิกิลีกส์
พลฯ แมนนิงถูกจองจำอยู่ในค่ายทหารกวนติโกมารีน รัฐเวอร์จิเนีย เขาถูกควบคุมด้วยระบบการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด เนื่องจากทางการสหรัฐฯ เชื่อว่า การหลบหนีของแบรดลีย์ แมนนิงจะเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ
“การสอบสวนทางทหาร ... พบว่า ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของแมนนิงไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลความปลอดภัยของพื้นที่เก็บข้อมูลลับ ทำให้เสี่ยงต่อการถูกละเมิดความมั่นคงเป็นอย่างยิ่ง” เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงาน
แม้เว็บไซต์วิกิลีกส์ไม่ได้เปิดเผยถึงแหล่งข้อมูลของทั้งเอกสารลับทางทหาร และข้อมูลทูตสหรัฐฯ จำนวนมหาศาลที่เปิดโปงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทว่าข้อสงสัยต่างๆ นานาล้วนตกอยู่ที่ แบรดลีย์ แมนนิง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่พลทหารชั้นผู้น้อยในหน่วยข่าวกรอง ณ สมรภูมิอิรัก
แบรดลีย์ แมนนิง ถูกจับครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2010 จนถึงตอนนี้ทางการสหรัฐฯ ยังไม่เคยเปิดเผยว่า เขาจะขึ้นให้การในชั้นศาลเมื่อไร หากพบว่าผิดจริงตามข้อกล่าวหา แมนนิงอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 52 ปี
เมื่อเดือนที่แล้ว ทนายความของแบรดลีย์ แมนนิงระบุว่า พลทหารผู้นี้ได้ยื่นข้อร้องเรียนต่อสภาพห้องขังที่ถูกควบคุมตัว ทนายเดวิด คูมบ์ส กล่าวว่า ห้องขังที่แมนนิงถูกจองจำไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง และอยู่ภายใต้การรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด และมีการควบคุมเป็นพิเศษ