เอเอฟพี - เต็นท์ผ้าใบที่ตั้งเรียงราย, บริการนวดแผนไทยสำหรับผู้ที่เมื่อยขบ, อาหารมังสวิรัติที่แจกให้รับประทานกันอย่างเหลือเฟือ และเสียงปลุกใจรักชาติที่ดังอยู่เป็นระยะ เหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่ากลุ่มคนเสื้อเหลืองได้กลับมาสู่ท้องถนนของกรุงเทพมหานครอีกครั้ง
คนเสื้อเหลืองกว่า 1,000 คน ได้มาปักหลักอยู่รอบทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันอังคาร (25) ที่ผ่านมา เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อวิธีการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของรัฐบาลอภิสิทธิ์
แม้การกลับมาครั้งนี้จะมีผู้ร่วมชุมนุมน้อยกว่าอริใหญ่อย่างคนเสื้อแดง ซึ่งเคยมารวมตัวประท้วงรัฐบาลกันมากกว่า 30,000 คน แต่กลุ่มคนเสื้อเหลืองก็เป็นหนึ่งขั้วสำคัญในระบอบการเมืองแบบแบ่งสีของไทย และเคยเป็นพลังในการโค่นล้มรัฐบาลมาแล้วถึง 3 ชุด ในระยะเวลาเพียง 5 ปี ซึ่งรวมถึงรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งลี้ภัยในต่างประเทศ
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องให้รัฐบาลใช้นโยบายแข็งกร้าวจัดการปัญหาชายแดนไทยกับกัมพูชา ซึ่งเป็นหนามทิ่มตำความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาช้านาน
ประเด็นความขัดแย้งอยู่ที่ดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบๆ ปราสาทพระวิหาร โบราณสถานที่ศาลโลกมีคำตัดสินเมื่อปี 1962 ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของกัมพูชา ขณะที่ทางขึ้นหลักอยู่ในฝั่งไทย
“ฉันมาที่นี่เพื่อช่วยประเทศชาติ เราต้องสู้เพื่อปกป้องดินแดนของเรา” ชุติกานต์ รัตนสุภา วัย 42 ปี ซึ่งทำอาชีพขายของชำอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าว
กลุ่มคนเสื้อเหลือง ซึ่งอ้างว่า ได้แรงสนับสนุนจากชนชั้นนำในกรุงเทพมหานคร และหลายๆ ส่วนในกองทัพ เคยมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่วันนี้ความสัมพันธ์ดังกล่าวกลับขมขื่น
พอล เชมเบอร์ส จากมหาวิทยาลัย ไฮเดลเบอร์ก ในเยอรมนี กล่าวว่า นายกฯอภิสิทธิ์ อาจจะสามารถรักษาภาพลักษณ์ “นายกฯเทฟลอน” ไว้ได้ หากไม่ยอมปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อเหลือง แต่ขณะเดียวกัน “หากอภิสิทธิ์ไม่ยอมอ่อนข้อ การชุมนุมประท้วงจะยืดเยื้อออกไปแน่นอน”
ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มร้อนระอุขึ้นเมื่อเกิดกรณี 7 คนไทยถูกทหารกัมพูชาจับกุมเมื่อเดือนธันวาคม ในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และรุกล้ำพื้นที่พิพาท โดยหนึ่งในนั้นเป็นแกนนำของคนเสื้อเหลือง ซึ่งยังถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำกัมพูชาด้วยข้อหาจารกรรม
ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ จากสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ประเทศสิงคโปร์ ให้ความเห็นว่า เรื่องพื้นที่พิพาทกับกัมพูชาเป็นเพียงข้ออ้างที่คนเสื้อเหลืองใช้ เพื่อกลับเข้ามาสู่ความสนใจของประชาชนเท่านั้น
“พวกเขาเพียงต้องการเรียกความน่าเชื่อถือทางการเมืองกลับคืนมา และหนทางเดียวที่จะทำได้ ก็คือ โจมตีรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ตาม”
เชมเบอร์ส กล่าวว่า กิจกรรมของกลุ่มคนสีต่างๆ ในประเทศไทยจะเริ่มเด่นชัดยิ่งขึ้น เมื่อการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2555 ใกล้เข้ามา รวมทั้งเดิมพันก็จะยิ่งมากขึ้นด้วย ดังจะเห็นได้จากการประท้วงของกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม ปีที่แล้ว ซึ่งทำให้เกิดการปะทะระหว่างทหารและประชาชนจนมีผู้เสียชีวิตไปกว่า 90 คน
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อเหลืองขณะนี้ ก็ไม่ต่างจากงานเทศกาล โดยมีการอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาร่วมชุมนุมอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น ห้องน้ำ, สถานที่อาบน้ำ, ถังขยะรีไซเคิล รวมไปถึงแผงลอยที่ขายของสารพัด ตั้งแต่นาฬิกาข้อมือไปจนถึงพระเครื่องของขลัง นอกจากนี้ ยังมีเหล่าศิลปินที่มานั่งสเกตช์ภาพให้แก่ผู้ที่สนใจนำติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย
“ฉันเคยมาอยู่ที่นี่ 193 วัน เมื่อปี 2551 คราวนี้ก็พร้อมที่จะอยู่ยาวเหมือนกัน” นิตยา เจ้าของบริษัทรับทำบัญชี วัย 40 ปี กล่าว