เอเอฟพี - ราคาน้ำมันพุ่งเกือบ 3 ดอลลาร์เมื่อวันอังคาร(16) หลังดอลลาร์อ่อนค่าและความตึงเครียดเกี่ยวกับโปรแกรมนิวเคลียร์อิหร่าน ผู้ส่งออกพลังงานสำคัญ ขณะที่วอลล์สตรีท ทะยานแรงตามข้อมูลภาคอุตสาหกรรมมะกันและวิกฤตหนี้สินของกรีซที่ส่อแววคลี่คลาย
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 2.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 3.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเมื่อวันอังคาร(16) ยูโรฟื้นตัวจากที่เมื่อเร็วนี้อ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากบรรดารัฐมนตรีคลังของสหภาพยุโรป ออกมากดดันกรีซ ให้จัดการปัญหาหนี้สินจำนวนมหาศาล
ความกังวลต่อโปรแกรมนิวเคลียร์อิหร่านได้ส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันเช่นกัน หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เตหะรานเริ่มต้นการผลิตเชื้อเพลิงยูเรเนียมความเข้มข้นร้อยละ 20 โดยใช้เครื่องปั่นเหวี่ยงแล้ว
ทางวอชิงตันและชาติตะวันตกอ้างว่ากระบวนการดังกล่าวคือหลักฐานยืนยันเพิ่มเติมว่าอิหร่านกำลังผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แต่เตหะรานปฏิเสธข้อกล่าวหา พร้อมยืนกรานว่าเป้าหมายคือโครงการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติและการวิจัย
นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ร่วมเข้าหารือในซาอุดีอาระเบียเมื่อวันจันทร์(15) เพื่อควานหาเสียงสนับสนุนสำหรับมาตาการคว่ำบาตรใหม่ของสหประชาชาติต่ออิหร่าน ซึ่งเธอเตือนว่าประเทศแห่งนี้กำลังเลี้ยวเข้าสู่ "เผด็จการทหาร" ที่มุ่งมั่นกับการสร้างระเบิดนิวเคลียร์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร(16) ปิดบวกอย่างแรง จากข้อมูลอันแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรรมอเมริกาและความกังวลที่คลี่คลายต่อวิกฤตหนี้สินของกรีซ ตามหลังความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 169.67 จุด (1.68 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,268.81 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 30.66 จุด (1.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,214.19 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 19.36 จุด (1.80 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,094.87 จุด
ความเคลื่อนไหวในแดนบวกของวอลล์สตรีท มีขึ้นตามหลังรายงานของธนาคารกลางแห่งนิวยอร์ก ที่ระบุว่ากิจกรรมอุตุสาหกรรมแถบนิวยอร์กขยายตัวในเดือนกุมภาพันธ์ ในอัตราที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดหมายไว้
