เอเอฟพี - หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงาน รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ เชื่อว่าสถานการณความไม่สงบภายในประเทศ และสัญญาณของปัญหาที่คาดไม่ถึงเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ทำให้ผู้นำของประเทศเสี่ยงต่อการถูกมาตรการลงโทษอย่างรุนแรง และทันทีครั้งใหม่
หนังสือพิมพ์ดังกล่าวรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า ข้อเสนอมาตรการลงโทษ ที่เจรจากันมายาวนานโดยรัฐบาลของโอบามา ได้ทำการทบทวนเกี่ยวกับความก้าวหน้าของโครงการนิวเคลียร์อิหร่านเสร็จสิ้นแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ของโอบามาเชื่อว่า ผู้นำทางการเมือง และการทหารระดับสูงของอิหร่านเกิดความวิตกกังวลในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จากเหตุจลาจลบนท้องถนน และการต่อสู้ทางการเมือง จึงทำให้แรงขับดันในการผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์สะดุด
ไทมส์ยังระบุว่า ทำเนียบขาวต้องการวางมาตรการลงโทษกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน ซึ่งเชื่อว่าเป็นฝ่ายดำเนินการผลิตอาวุธนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการวางมาตรการลงโทษหลายต่อหลายครั้ง ในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่สามารถห้ามปรามอิหร่านไม่ให้พัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ได้ โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลด้านนโยบายของอิหร่านคนหนึ่งชี้ว่า ความหวังดังกล่าวเป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน ที่จะเปิดช่องทางให้สหรัฐฯ วางมาตรการลงโทษครั้งแรก ซึ่งอาจทำให้อิหร่านคิดได้ว่า โครงการนิวเคลียร์ไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องเสียไป
เจ้าหน้าที่รัฐบาลของโอบามาเชื่อว่า ความพยายามในการพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ของอิหร่านหยุดชะงักลงอย่างจริงจัง โดยการเปิดเผยโรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมลับ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างใกล้เมืองกอมอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อ 3 เดือนก่อน ทำให้อิหร่านเสียโอกาสในการผลิตเชื้อเพลิงที่จำเป็นในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์
ยิ่งไปกว่านั้น รายงานของทีมตรวจสอบนิวเคลียร์ระหว่างประเทศยังชี้ว่า โรงงานนิวเคลียร์ในเมืองนาตานซ์ ซึ่งมีเครื่องปั่นเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมสำหรับเชื้อเพลิงนิวเคลียร์หลายพันเครื่อง แต่กลับถูกใช้งานลดลงร้อยละ 20 นับตั้งแต่ฤดูร้อน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเป็นเหตุมาจากปัญหาทางเทคนิค
ขณะที่ผู้อื่นๆ ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ของทางยุโรปบางคน เชื่อว่า ปัญหาเหล่านั้นอาจถูกยกขึ้นมา เพื่อเบี่ยงเบนความพยายามในการทำลายโครงการนิวเคลียร์ของชาติตะวันตก รวมถึงการบ่อนทำลายเครื่องมือ และโครงสร้างพื้นฐาน ที่ต้องนำเข้าไปในอิหร่านด้วย