เอเอฟพี - ลอรา ชินชีญา นักเรียนนอกผู้ใกล้ชิดกับผู้นำคอสตาริกา ออกมาแสดงความขอบคุณชาวคอสตาริกา ที่ลงคะแนนเสียงเลือกให้เธอมาเป็นประธานาธิบดีที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ และเป็นผู้นำหญิงคนที่ 5 ในภูมิภาคละตินอเมริกา ขณะที่คู่แข่งออกมายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว ทั้งยังแสดงความยินดีแก่เธอด้วย
ลอรา ชินชีญา วัย 50 ปี เป็นตัวแทนจากพรรครัฐบาลพีแอลเอ็น ออกมาชุมนุมกับกลุ่มผู้สนับสนุนหลายพันคนในกรุงซันโฮเซ เมื่อวันอาทิตย์(7) หลังจากผลการเลือกตั้งเบื้องต้นระบุว่า เธอได้รับคะแนนเสียร้อยละ 47 เหนือบรรดาคู่แข่งหลักๆ และเหนือร้อยละ 40 ที่จำเป็นสำหรับการเลือกตั้งเพียงรอบเดียว โดยไม่ต้องจัดเลือกตั้งอีกรอบเพื่อชี้ขาด
"ขอบคุณ คอสตาริกา" "แน่นอนว่ามันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข แต่เหนือความอัปยศอดสูใดๆ ดิฉันจะไม่ทรยศกับการให้ความชื่อมั่นในตัวฉัน" ชินชีญา กล่าวกับผู้สนับสนุนในโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงซันโฮเซ เมืองหลวงของประเทศ
ด้านออตตัน โซลิส ผู้สมัครฝ่ายค้านหัวกลางซ้าย ได้คะแนนเสียงร้อยละ 24 ขณะที่ออตโต เกวารา นักกฎหมายฝ่ายขวาได้ร้อยละ 21 พวกเขาออกมายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว โดยทั้งคู่ได้แสดงความยินดีกับชินชีญา ไม่นานหลังจากผลการเลือกตั้งเบื้องต้นออกมา ขณะที่ก่อนหน้านี้พวกฝ่ายค้านกล่าวหาว่า ชินชีญาเป็นหุ่นเชิดของประธานาธิบดีออสการ์ อารีอัส ผู้ซึ่งเคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เพราะคาดว่าเธอจะดำเนินนโยบายตามเขาในการส่งเสริมการค้าเสรี และธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ
ชินชีญา สาวผมยาวร่างบอบบางจบการศึกษาจาก จอร์จทาวน์ ยูนิเวอร์ซิตี้ ในสหรัฐฯ เป็นรองประธานาธิบดีของประธานาธิบดีอารีอัส และมีความคิดค่อนข้างอนุรักษ์นิยมในเรื่องต่างๆ อาทิการทำแท้ง
และพรรคเนชั่นแนลลิเบอเรชั่นปาร์ตี้(PLN)ของเธอ กำลังลงเดิมพันกับประสบการณ์ทำงานของเธอในอดีต ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ และกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้ได้คะแนนเสียงสนับสนุนในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรมที่กำลังเป็นที่วิตกกันภายในประเทศ
เอเอฟพีระบุว่า คอสตาริกา มีระบอบการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันเก่าแก่ แต่ไม่มีกองทัพ การเลือกตั้งเมื่อวานนี้เป็นไปอย่างสงบ อย่างไรก็ตาม อัตรางดออกเสียงก็สูงมากจนน่าวิตก
ผลสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีอัตราผู้งดออกเสียงถึงร้อยละ 33.43 จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งราว 2.8 ล้านคน สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งเป็นการเลือกตั้งเพื่อหาประธานาธิบดีคนใหม่ รองประธานาธิบดี 2 คน และสมาชิกสภานิติบัญญัติและสภาท้องถื่นอีก 57 คน
การเลือกตั้งครั้งนี้ยังเป็นการทดสอบทักษะการบริหารจัดการองค์กรของพรรคพีแอลเอ็น ซึ่งกุมอำนาจปกครองคอสตาริกามานานถึง 6 ทศวรรษแล้ว ขณะที่ชินชีญา ได้รับการเกื้อหนุนจากความสามารถก้าวผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจโลกได้ ด้วยการสนุบสนุนจากภาคธุรกิจอันทรงอิทธิพลที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีอารีอัส
ชินชีญา คุณแม่ที่มีลูกสองคนซึ่งยังเป็นวัยรุ่น ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาที่ยากจน ขยายการให้เงินช่วยเหลือแก่คนยากไร้ และเปิดศูนย์ทำงานรองรับบรรดาแม่ๆ ที่ต้องการทำงานในช่วงกลางวันด้วย
ทั้งนี้ หากผลการเลือกตั้งยืนยันว่าเธอได้รับชัยชนะ เธอก็จะกลายเป็นผู้นำที่เป็นผู้หญิงคนที่ 5 ในละตินอเมริกา ตามหลังชีลี อาร์เจนตินา ปานามา และนิการากัว ซึ่งจะนับเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งของคอสตาริกาที่เพิ่งผลักดันให้ผู้หญิงมาทำงานการเมืองมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้