เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิ่งลงอีกว่า 1 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ(13) หลังสต๊อกพลังงานสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น บ่งชี้ถึงอุปสงค์อันอ่อนแอในชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในโลกที่ภาวะอากาศหนาวเริ่มบรรเทาลง ขณะที่วอลล์สตรีทปิดบวกเล็กน้อย เหตุนักลงทุนเชื่อมั่นว่าผลประกอบการบริษัทต่างๆที่เตรียมเปิดเผยเร็วๆ นี้จะออกมาสวยงาม
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 1.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งดำดิ่งลงไปถึง 78.37 ดอลลาร์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 99 เซ็นต์ ปิดที่ 78.31 ดอลลาร์
ตลาดขานรับต่อรายงานกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ที่เปิดเผยเมื่อวันพุธ(13) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองเพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 มกราคม มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.0 ล้านบาร์เรล
ขณะที่คลังน้ำมันกลั่น ประกอบด้วยน้ำมันทำความร้อนและดีเซล ก็เพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล สวนทางจากที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะลดลงราว 1.8 ล้านบาร์เรล
สต๊อกดีเซลอยู่ภายใต้การเพ่งเล็งของตลาดท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามทางหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศว่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์หน้าข้างหน้าสภาพอากาศน่าจะเบาบางลง
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ(13) แกว่งตัวปิดในแดนบวก เหตุนักลงทุนมองในแง่ดีต่อรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆที่จะเปิดเผยออกมา แม้ว่ามีตัวเลขที่น่าผิดหวังจากบริษัทอะลูมิเนียมยักษ์ใหญ่ก็ตาม
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 54.42 จุด (0.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,681.68 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 25.59 จุด (1.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,307.90 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 9.46 จุด (0.83 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,145.68 จุด
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดเพิกเฉยต่อรายงานผลประกอบการอันน่าผิดหวังของอัลโก บริษัทอะลูมิเนียม ที่ขาดทุน 277 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 4 โดยมองในแง่ดีต่อผลประกอบการของภาคธุรกิจต่างๆ ซึ่งจะเปิดเผยออกมาเร็วๆ นี้