เอเอฟพี - ราคาน้ำมันทะยานขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ(23) ตามรายงานคลังน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ดิ่งลดลงแรงเกินคาดหมาย บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดบวกเพียงเล็กน้อย หลังถูกฉุดโดยตัวเลขยอดขายบ้านใหม่อันอ่อนแอ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 2.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.99 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันขยับขึ้นตามหลังกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศลดลง 4.9 ล้านบาร์เรล เหลือ 327.5 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 ธันวาคม ขณะที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะลดลงเพียง 1.1 ล้านบาร์เรล
รายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ระบุด้วยว่าคลังน้ำมันกลั่นสำรองก็ลดลง 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะลดลงเพียง 1.6 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้ข้อมูลน้ำมันกลั่น -- ประกอบด้วยน้ำมันดีเซลและน้ำมันทำความร้อน -- อยู่ในความสนใจของนักลงทุนขณะที่สหรัฐฯและยุโรปเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(23) ปิดบวกในกรอบแคบๆ หลังจากรายงานอันน่าแปลกใจของยอดขายบ้านใหม่ที่อ่อนแอ ได้ทำลายความหวังทางเศรษฐกิจจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทต่างๆ รวมถึงตัวเลขรายได้และการใช้จ่ายผู้บริโภคมะกันที่สูงขึ้น
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1.51 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,466.44 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 16.97 จุด (0.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,269.64 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.58 จุด (0.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,120.60 จุด
การขยับขึ้นอย่างแรงของตลาดในช่วงต้นของการซื้อขายถูกฉุดรั้งไว้โดยรายงานรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ชี้ว่ายอดขายบ้านใหม่ในประเทศ ลดลง 11.3 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนพฤศจิกายน ถือว่าเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน