เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันร่วงอย่างแรงเกือบ 2 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ(2) หลังสต๊อกพลังงานสหรัฐฯสูงขึ้นผิดคาด ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดผสมผสาน หลังนักทุนไตร่ตรองข้อมูลภาคแรงงานที่อ่อนแอเกินกว่าคาดหมายไว้
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานคลังน้ำมันสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 พฤศจิกายน ในวันพุธ(2) โดยพบว่าสต๊อกเบนซินเพิ่มขึ้นถึง 4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้กว่า 700,000 บาร์เรล
ขณะเดียวกันคลังน้ำมันดิบสำรองก็เพิ่มขึ้นอีก 2.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ 2 เท่า กระนั้นก็ดีสต๊อกน้ำมันกลั่นสำรอง ประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อนลดลงถึง 1.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะปรับลด 300,000 บาร์เรลเป็นอย่างมาก
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.77 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ลดลง 1.47 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพุธ(2) การซื้อขายเป็นไปอย่างตะกุกตะกัก ก่อนปิดผสมผสาน เหตุนักลงทุนครุ่นคิดถึงแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ตามหลังตัวเลขภาคแรงงานที่อ่อนแอเกินความคาดหมาย
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 22.83 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,448.74 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 09.09 จุด (0.42 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,184.90 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.12 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,108.98 จุด
ความเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆของตลาด มีขึ้นตามหลังผลสำรวจของบริษัทบเอดีพี เกี่ยวกับการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่พบว่าภาคเอกชนมีการปลดพนักงาน 169,000 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน ตัวเลขที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงย่ำแย่อยู่