เอเอฟพี - ราคาน้ำมันเมื่อวันพุธ(28) ดิ่งลงต่ำกว่า 77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังข้อมูลใหม่เผยสต๊อกน้ำมันดิบและเบนซินสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่หดตัวลงในชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ของโลก ด้านวอลล์สตรีทปิดลบแรงตามตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 2.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน ลดลง 2.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันปิดลบหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานเมื่อวันพุธ(28) ว่า คลังน้ำมันเบนซินสำรองของประเทศ เพิ่มขึ้นถึง 1.7 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 ตุลาคม สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะ ลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล บ่งชี้ถึงอุปสงค์อันอ่อนแอในอเมริกา
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ระบุต่อว่า คลังน้ำมันดิบสำรองก็เพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรลเช่นกัน ซึ่งแม้น้อยกว่าที่นักวิเคาะห์คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล แต่ก็ยังเพียงที่จะผลักดันตลาดน้ำมันให้อ่อนตัวลง และละเลยต่อสต๊อกน้ำมันกลั่น ดีเซลและน้ำมันทำความร้อน ที่ลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ(28) ปิดลบอย่างรุนแรงท่ามกลางความกังวลต่ออัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ตามหลังการลดลงอย่างไม่คาดหมายของยอดขายบ้านใหม่และดัชนีผู้บริโภคอันน่าสลด
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 119.48 จุด (1.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,762.62 จุด แนสแดค ลดลง 56.48 จุด (2.67 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,059.61 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 20.78 จุด (1.95 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,042.63 จุด
ตลาดแสดงปฏิกิริยาในทางลบตามหลังข้อมูลยอดขายบ้านของสหรัฐฯ ที่ลดลงเป็นครั้งแรกหลังจากก่อนหน้านี้เพิ่มขึ้นมา 5 เดือนติด โดยกระทรวงพาณิชย์มะกันระบุว่ายอดจำหน่ายบ้านเดี่ยวมือหนึ่ง ลดลง 3.6 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 402,000 ยูนิต จาก 417,000 ยูนิตในเดือนสิงหาคม