เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปิดผสมผสานเมื่อวันพฤหัสบดี(20) หลังจากทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนเมื่อวันพุธ(19) จากข้อมูลสต๊อกเชื้อเพลิงที่บ่งชี้ถึงอุปสงค์อันแข็งแกร่งของสหรัฐฯ ขณะที่วอลล์สตรีทปิดตัวในแดนบวกได้สำเร็จแม้มีแรงฉุดจากข้อมูลภาคแรงงาน
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 12 เซ็นต์ ปิดที่ 72.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 73.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ ปิดบวกต่อเนื่องจากวันพุธ(19) ซึ่งทะยานขึ้นไปกว่า 3 ดอลลาร์ ตามหลังข้อมูลรัฐบาลอเมริกาที่พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองลดลงถึง 8.4 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 1.5 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ยังระบุอีกว่า คลังน้ำมันเบนซินสำรองร่วงลง 2.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะลดลงเพียง 800,000 บาร์เรล ส่วนน้ำมันกลั่นซึ่งประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อน ร่วงลง 700,000 บาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผิดกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี(20) สามารถปิดในแดนบวกได้เป็นวันที่ 3 ติดต่อกันจากแรงหนุนของราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นอย่างแรงในวันพุธ(19) สามารถกลบข่าวร้ายกรณีมีผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานเพิ่มขึ้น
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 70.89 จุด (0.76 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,350.05 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 19.98 จุด (1.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,989.22 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 10.91 จุด (1.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,007.37 จุด
รายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ระบุว่า มีผู้เข้ารับสิทธิประโยชนคนว่างงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 576,000 คน มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้น 550,000 อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวก็ไม่สามารถฉุดตลาดให้ปิดในแดนลบได้