เอเจนซี - ราคาน้ำมันร่วงลงเกือบ 1 ดอลลาร์ปิดต่ำกว่า 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันจันทร์(17) เหตุนักลงทุนระมัดระวังเกี่ยวกับย่างก้าวของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกที่กระทบต่ออุปสงค์พลังงาน ขณะที่วอลล์สตรีทปิดลบอย่างแรงจากข้อมูลทางเศรษฐกิจอันอ่อนแอของญี่ปุ่นและยอดขายอันน่าผิดหวังของบริษัทค้าปลีกอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านมะกัน
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 76 เซ็นต์ ปิดที่ 66.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากทรุดลงไปถึง 65.23 ดอลลาร์ ต่ำสุดนับตั้งแต่ 31 กรกฎาคม ขณะที่เบรนต์ของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 90 เซ็นต์ ปิดที่ 70.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันในวันจันทร์(17) ปิดลบเพิ่มจากที่ดิ่งลงอย่างแรง 3.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหรือ 4.3 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันศุกร์(14) -- ปิดลบแรงสุดนับตั้งแต่ 29 มิถุนายน -- หลังจากผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯช่วงต้นเดือนสิงหาคม ลดลงสู่ระดับ 63.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแค่เดือนมีนาคมเลยทีเดียว
ทั้งนี้ อีกปัจจัยหนึ่งที่กระทบต่อราคาน้ำมัน คือ กรณีญี่ปุ่น ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก พ้นจากภาวะถดถอยยาวนานในรอบกว่า 60 ปีในช่วงไตรมาส 2 แต่นักวิเคราะห์มองว่ายังไม่ใช่การพลิกฟื้นอย่างยั่งยืนของญี่ปุ่น
เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีอัตราเติบโตในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนปีนี้ที่ 0.9 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่หดตัวถึง 3.1 เปอร์เซ็นต์ และ 3.5 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้และไตรมาสุดท้ายของปี 2008 ตามลำดับ ซึ่งเมื่อคำนวณให้เป็นอัตราต่อปีแล้ว ในไตรมาส 2 เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเติบโตเท่ากับ 3.7 เปอร์เซ็นต์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์(17) ร่วงลงแรงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ หลังได้ปัจจัยลบจากข้อมูลทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและผลประกอบการอันน่าผิดหวังของบริษัทโลวส์ คอส บริษัทค้าปลีกอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านรายใหญ่อันดับสองของมะกัน
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 186.06 จุด (2.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,135.34 จุด แนสแดค ลดลง 54.68 จุด (2.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,930.84 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 23.36 จุด (2.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 979.73 จุด
ปัจจัยสำคัญที่ฉุดให้ตลาดปิดตัวในแดนลบคือแนวโน้มผลประกอบการของบริษัท โลวส์ คอส ในช่วงไตรมาส 3 ที่น่าจะต่ำกว่าคาดหมายและทางบริษัทได้ออกเผยว่าจะเลื่อนแผนขยายกิจการออกไป
