เอเจนซี - ราคาน้ำมันทะยานขึ้น 3.75 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันศุกร์(31) หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯหดตัวน้อยกว่าที่คาดหมายในไตรมาส2 เพิ่มความหวังภาวะถดถอยกำลังคลี่คลาย ขณะที่วอลล์สตรีทขยับในกรอบแคบๆ เหตุมีแรงฉุดจากตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯอันอ่อนแอ
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 2.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 69.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงเปิดตลาดดิ่งลงไปแตะ 64.96 ดอลลาร์ ขณะที่เบรนท์ลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันทะยานอย่างแรงมีขึ้นหลังจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)ของสหรัฐฯ ในไตรมาส 2 หดตัวเพียง 1.0 เปอร์เซ็นต์ จากการเปิดเผยของกระทรวงพาณิชย์ หลังนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะลดลง 1.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่จีดีพีของสหรัฐฯในไตรมาสแรกของปีนี้ หดตัวถึง 6.4 เปอร์เซ็นต์
ด้วยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศยังหดตัวในไตรมาส2 ทำให้จีดีพีของสหรัฐฯ หดตัวต่อเนื่อง 4 ไตรมาสติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มจดบันทีกเมื่อปี 1947 เลยทีเดียว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(31) ขยับเล็กน้อย แม้ได้ปัจจัยบวกจากจีดีพีที่หดตัวน้อยกว่าที่คาด แต่ก็ถูกฉุดจากตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 9.97 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,164.43 จุด แนสแดก ลดลง 5.80 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,978.50 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.26 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 987.01 จุด
การใช้จ่ายของภาครัฐคือตัวขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวกันการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯ ซึ่งถือว่ามีขนาด 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ กลับร่วงลง 1.2 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาส 2 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสแรก แสดงให้เห็นถึงความกังวลใจของประชาชนที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจ