เอเอฟพี - ราคาน้ำมันเมื่อวันพุธ (26) ร่วงลงเล็กน้อย ตามหลังข้อมูลชี้ว่าสต๊อกน้ำมันดิบสำรองสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลกเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ขณะที่วอลล์สตรีทเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เหตุนักลงทุนระมัดระวังแม้มีปัจจัยบวกสำคัญจากตัวเลขยอดขายบ้านที่น่าพึงพอใจก็ตาม
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 62 เซ็นต์ ปิดที่ 71.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 17 เซนต์ ปิดที่ 71.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันร่วงลงหลังจากรายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ระบุว่า คลังน้ำมันดิบของอเมริกาเพิ่มขึ้นอีก 200,000 บาร์เรล เป็น 343.8 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 สิงหาคม ขณะที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะลดลง 600,000 บาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ(26) ปิดบวกเล็กน้อย หลังนักลงทุนมีความระมัดระวังต่อการซื้อขาย แม้มีปัจจัยบวกจากรายงานยอดขายบ้านและคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่แข็งแกร่ง
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 4.23 จุด (0.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,543.52 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 0.20 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,024.43 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.12 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,028.12 จุด
หลังจากเปิดตลาดในแดนลบ วอลล์สตรีทสามารถขยับขึ้นมาปิดบวกได้สำเร็จ หลังข้อมูลระบุว่ายอดจำหน่ายบ้านใหม่ของสหรัฐฯในเดือนกรกฏาคม เพิ่มขึ้นถึง 9.6 เปอร์เซ็นต์ เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายและยังเป็นการเพิ่มขึ้น 4 เดือนติดต่อกัน
ขณะที่คำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่รวมถึงอุปกรณ์ด้านการขนส่งเพิ่มขึ้น 0.8 เปอร์เซ็นต์ แม้น้อยกว่าที่คาดหมาย ทว่าโดยรวมแล้วคำสั่งซื้อสินค้าคงทนก็ก้าวกระโดดขึ้นมาอย่างแรงนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2007 รายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุ