เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นต่อเนื่องเมื่อวันพุธ(16) จากสต๊อกเชื้อเพลิงที่ลดลงในสหรัฐฯและอากาศหนาวเริ่มปกคลุมซีกโลกใต้ซึ่งกระทบต่ออุปทานและอุปสงค์ ขณะที่วอลล์สตรีท ขยับเล็กน้อย ตามหลังคำประเมินเศรษฐกิจในทิศทางที่มีหวังของเฟด
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1.69 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังช่วงหนึ่งของการซื้อขายขยับไปถึง 73.55 ดอลลาร์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ ปืดที่ 73.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันขยับขึ้นตามหลังคำแถลงเมื่อวันพุธ(16) ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯที่ระบุว่าคลังน้ำมันกลั่นสำรองของประเทศลดลงเกินความคาดหมายถึง 2.9 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ข้อมูลน้ำมันน้ำมันกลั่น ที่ประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อน ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากนักลงทุน ในช่วงเริ่มต้นของฤดูหนาวของซีกโลกเหนือ ซึ่งอุปสงค์น้ำมันทำความร้อนจะพุ่งถึงขีดสุด
นอกจากนี้กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ ก็ลดลงถึง 3.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้เช่นกัน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพุธ(16) ปิดในกรอบแคบๆ เหตุนักลงทุนขบคิดถึงคำแถลงของธนาคารกลางสหรัฐฯที่ประเมินทิศทางเศรษฐกิจของประเทศมีความสดใสยิ่งขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ก่อความกังวลว่าอาจนำไปสู่การขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 5.06 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,446.04 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 5.86 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,206.91 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.72 จุด (0.54 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,109.65 จุด