เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปรับลดเมื่อวันจันทร์(11) ตามแรงขายทำกำไรในช่วงท้ายการซื้อขาย หลังจากช่วงต้นขยับขึ้นตามข้อมูลทางเศรษฐกิจของจีน ด้านวอลล์สตรีทขยับเล็กน้อย เหตุนักลงทุนเฝ้ารอตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 4 ของบริษัทต่างๆ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 23 เซนต์ ปิดที่ 82.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 80.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แนวโน้มของตลาดมีทิศทางที่สดใสในช่วงต้นของการซื้อขาย หลังได้แรงส่งจากข่าวเมื่อวันอาทิตย์(10) ที่ระบุว่า จีนชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่อันดับสองของโลก ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 17.7 เปอร์เซ็นต์ในเดือนธันวาคม หลังก่อนหน้านี้ลดลง 13 เดือนติดต่อกัน
ตัวเลขที่ก้าวกระโดดของยอดส่งออกจีนได้เติมความหวังต่อตลอดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างยั่งยืนซึ่งนำโดยจีน กำลังอยู่บนเส้นทางแล้ว เป็นผลให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้นไปแตะระดับ 83.95 ดอลลาร์ต่อบาร์ สูงสุดนับตั้งแต่ 9 ตุลาคม 2008 ทว่าในช่วงท้ายของการซื้อขายราคาน้ำมันก็ผันผวนทรุดกับมาอยู่ในแดนลบจากแรงเทขายของนักลงทุน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันจันทร์(11) ปิดผสมผสาน หลังนักลงทุนชะลอดูข้อมูลผลประกอบการไตรมาส 4 ของบริษัทต่างๆซึ่งจะเปิดเผยออกมาในช่วงสัปดาห์นี้ ที่จะคลี่คลายข้อสงสัยเกี่ยวกับสถานภาพของบริษัทยักษ์ในอเมริกา
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 45.80 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,663.99 จุด สูงสุดในรอบ 15 เดือน แนสแดค ลดลง 4.76 จุด (0.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,312.41 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.00 จุด (0.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,146.98 จุด
ในช่วงปิดตลาดดัชนีหุ้นทั้ง 3 ตัวขยับขึ้นไปในแดนบวก ตามหลังข้อมูลที่เปิดเผยออกมาในช่วงสุดสัปดาห์ว่า จีน ได้แซงหน้า เยอรมนี กลายเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว แต่ทว่าวอลล์สตรีทผันผวนในช่วงท้าย ส่งผลให้ แนสแดค ลงมาปิดในแดนลบ เหตุนักลงทุนเฝ้าระวังก่อนหน้าฤดูกาลรายงานผลประกอบการบริษัทต่างๆ