เอเอฟพี - ศาลฎีกาของเปรูตัดสินยืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นอย่างเป็นเอกฉันท์ ให้อดีตประธานาธิบดีอัลแบร์โต ฟูจิโมริ รับโทษจำคุก 25 ปี ในข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชน
ศาลฎีกาพิจารณาคดีฟูจิโมริใหม่อีกครั้งตามคำร้องขอของทนายความจำเลยในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อขอให้ศาลสูงเพิกถอนโทษจำคุกลูกความของเขา
อัยการซีซาร์ นากาซากิกล่าวต่อศาลว่า หลักฐานทั้ง 10 ชิ้นไม่มีชิ้นใดที่จะนำมายกเลิกความผิดของเขา ในฐานะผู้บงการสังหารหมู่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อปี 1991 และ 1992 ได้
ด้านทนายความจำเลยยังยื่นขอให้ยกเลิกโทษของฟูจิโมริในคดีลักพาตัวนักข่าว และนักธุรกิจในปี 1992 โดยเขาอ้างว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าอดีตประธานาธิบดีผู้นี้เป็นคนสั่งการ
ฟูจิโมริถูกตัดสินว่าผิดจริงในการพิจารณาคดี 4 ครั้ง นับตั้งแต่เขาถูกส่งตัวข้ามแดนจากชิลี กลับเปรู ในเดือนกันยายนปี 2007 และในเดือนธันวาคมปีเดียวกันนั้น เขายังถูกตัดสินโทษจำคุก 6 ปีฐานใช้อำนาจในทางที่ผิด
ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เขายังถูกตัดสินความผิดฐานจ่ายเงินพิเศษ 15 ล้านดอลลาร์ให้แก่วลาดิมิโร มอนเตซิโน มือขวาของเขา ซึ่งเป็นเงินผิดกฎหมาย โดยต้องโทษจำคุก 7 ปีครึ่ง และกำลังอยู่ในขั้นตอนการอุทธรณ์
และในวันที่ 30 กันยายน เขาก็ต้องรับโทษจำคุกเพิ่มอีก 6 ปี และถูกปรับเป็นเงิน 9 ล้านดอลลาร์ หลังจากเขายอมรับความผิดฐานดักฟังโทรศัพท์ และติดสินบนนักข่าว นักการเมือง และผู้นำทางธุรกิจ
ทั้งนี้ ชีวิตการเมืองของฟูจิโมริเริ่มเข้าสู่ขาลงในปี 2000 เมื่อวิดีโอ ที่แสดงให้เห็นว่ามอนเตซิโน ซึ่งเป็นห้วหน้าสายลับ ใช้เงินซื้อตัววุฒิสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน หลังจากนั้นไม่นาน ฟูจิโมริก็บินหนีไปยังเอเชีย และส่งแฟกซ์ยื่นใบลาออกจากโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ทว่า รัฐสภาไม่อนุมัติจดหมายลาออกของเขา แต่โหวตให้เขาออกจากตำแหน่ง และห้ามเขาลงการเมืองเป็นเวลา 10 ปี
ในปี 2005 ฟูจิโมริ ซึ่งพยายามเข้าไปในหัวพันกับการเมืองของเปรู ขณะลี้ภัยอยู่ในญี่ปุ่น ก็เดินทางไปยังชิลีด้วยเครื่องบินส่วนตัว แต่ในระหว่างเดินทางเขาก็ถูกจับ และทางการเปรูได้เรียกร้องให้ส่งตัวเขากลับประเทศ ซึ่งในที่สุดชิลีก็ยินยอมในเดือนกันยายน ปี 2007