เอเอฟพี - ผู้โดยสารทางอากาศทั่วโลกต้องเจอกับมาตรการตรวจเข้มยิ่งขึ้นเมื่อวันจันทร์(28) ขณะที่ทางการประเทศต่างๆพยายามป้องกันเหตุโจมตีจากกลุ่มก่อการร้ายตามหลังความพยายามอันล้มเหลวในการระเบิดเครื่องบินของสายการบินแห่งหนึ่งเหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ
ด้านสนามบินสคิปโฮล ก็กำลังสืบสวนกรณีหนุ่มชาวไนจีเรียวัย 23 ปี ที่รายงานข่าวระบุว่ามีความเกี่ยวกับกลุ่มอัลกออิดะห์ สามารถลักลอบซุกระเบิดขึ้นไปบนเครื่องได้อย่างไร โดยเขาพยายามจุดระเบิดบนเครื่องบินที่มุ่งหน้าจากอัมส์เตอร์ดัมสู่ดีทรอยต์ในวันคริสต์มาสแต่ถูกผู้โดยสารบนเครื่องรวบตัวไว้ได้ก่อน
และในลากอส จุดเริ่มต้นการเดินทางของผู้ต้องสงสัย ทางการไนจีเรียบอกว่า อูมาร์ ฟารูค อับดุลมุตัลลับ ได้เดินทางผ่านประเทศแห่งนี้ในวันพฤหัสบดี(24) หนึ่งวันก่อนความพยายามระเบิดเครื่องบินอันล้มเหลว
"ชายที่ถูกสืบสวนได้พักอาศัยอยู่นอกประเทศระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่เขาจะลักลอบเข้ามายังไนจีเรียเมื่อวันที่ 24 ธันวาคมและเดินทางออกไปในวันเดียวกัน" โดรา อาคุนยิลี บอกกับผู้สื่อข่าว
สหรัฐฯได้เรียกร้องไปยังสายการบินทั่วโลกให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่สนามบินหลายแห่งระบุว่าพวกเขายินยอมให้ตรวจตรากลั่นกรองอย่างพิเศษและเข้มงวดในการจำกัดสัมภาระที่ให้ผู้โดยสารต้องใช้เวลาเช็กอินยาวนานขึ้น
อาคุนยิลี เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันความปลอดภัยสนามบินไนจีเรีย ระบุว่าเธอ "ต้องการรับประกันกับผู้โดยสารทุกคนว่าสนามของเรามีความปลอดภัย" และผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศและคณะกรรมการรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐฯในเดือนพฤศจิกายน
ส่วนสนามบินต่างๆภายในสหรัฐฯ ผู้โดยสารทางอากาศ ได้รับคำแนะนำให้เช็กอิน 4 ชั่วโมงก่อนเวลาเครื่องออก ขณะที่สุนัขดมกลิ่นถูกใช้ค้นหาวัตถุต้องสงสัย ณ สนามบินทั่วประเทศ
ขณะเดียวกันสายการบินต่างๆก็แจ้งกับนักท่องเที่ยวว่าให้อยู่บนที่นั่งในช่วง 1 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนถึงปลายทาง โดยไม่อนุญาตให้เข้าห้องน้ำและหยิบของตรงตู้เก็บสัมภาระอยู่เหนือที่นั่งบนเครื่องบินรวมถึงใช้แล็ปท็อป
ในลอนดอน สายการบินบริติชแอร์เวย์ส ระบุว่าผู้โดยสารที่มีปลายทางสหรัฐฯจะถูกตรวจสอบเพิ่มเติมและอนุญาตให้นำสัมภาระติดตัวเพียง 1 ชิ้น ขณะเดียวกันผู้โดยสารที่นำของขวัญวันคริสต์มาสหรือของขวัญอื่นๆติดตัวไปจะถูกขอให้แกะห่อออกก่อนขึ้นเครื่อง
ที่เบอร์ลิน ตำรวจเปิดเผยว่าพวกเขาได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสนามบินต่างๆ โดยเฉพาะสนามบินแฟร้งค์เฟิร์ต ท่าอากาศยานใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของยุโรป
สนามบินชาร์ลส์ เดอ โกล ในกรุงปารีส ผู้โดยสารได้รับแจ้งว่าสัมภาระทุกชนิดยกเว้นกระเป๋าถือของผู้หญิงต้องนำไปไว้ในระวางบรรทุกสินค้าในเครื่องบินเท่านั้นและวัตถุที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าไปยังห้องผู้โดยสารก็ถูกนำไปใส่ในถุงพลาสติกแบบพิเศษ
มาดริด ปราก ซูริค โรม สตอกโฮล์ม และออสเตรเลีย ก็ประกาศยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้นขึ้นเช่นกัน ขณะที่ในเอเชีย ทางสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ส ได้ใช้กฎระเบียบใหม่อันเข้มข้นสำหรับเที่ยวบินที่มุ่งหน้าไปยังสหรัฐฯ