เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างแรงกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดี(12) จากสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นอย่างแรง บ่งชี้ถึงอุปสงค์อันอ่อนแอในชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่วอลล์สตรีทก็ปิดลบเช่นกัน แม้มีข้อมลบวกทั้งจากภาคแรงงานและผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ก็ตาม
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 2.34 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.93 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันร่วงลงหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี(12) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 พฤศจิกายน มากกว่าที่ตลาดคาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล
ขณะเดียวกัน คลังน้ำมันเบนซินก็เพิ่มขึ้นเกินความคาดหมายถึง 2.5 ล้านบาร์เรล ส่วนน้ำมันกลั่น ซึ่งประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อน เพิ่มขึ้นราว 300,000 บาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี(12) ปิดตัวในแดนลบ หลังนักลงทุนขานรับเพียงเล็กน้อยต่อข้อมูลบวกทางเศรษฐกิจและผลประกอบการอันสดใสของวอล-มาร์ต โดยนักวิเคราะห์เรียกปฏิกิริยานี้ว่า “ความเหนื่อยอ่อน”
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 94.40 จุด (0.92 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,196.86 จุด แนสแดก ลดลง 17.88 จุด (0.83 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,149.02 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 11.03 จุด (1.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,087.21 จุด
นักวิเคราะห์ชี้ว่านักลงทุนแทบไม่เคลื่อนไหวแม้มีข่าวดีจากผลประกอบการอันแข็งแกร่งเกินความคาดหมายของวอล-มาร์ต บริษัทค่าปลีกยักษ์ใหญ่และตัวเลขผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานที่ลดลง ระบุตลาดยังคงมีความเหนื่อยล้าจากความพยายามฟื้นตัว
ในตลาดแรงงานสหรัฐฯ พบว่า มีผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 พฤศจิกายน 502,000 ตำแหน่ง ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ 12,000 ตำแหน่ง
